แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้น ต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ได้ยื่นคำร้องขอรังวัดแบ่งแยกที่ดิน จำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านว่าดจทก์นำรังวัดปักหลักเขตรุกล้ำที่ดินของจำเลย ทำให้การรังวัดแบ่งแยกที่ดินของโจทก์ชะงักลง ทำให้โจทก์เสียหาย เสียค่าใช้จ่ายในการรังวัดแบ่งแยก และเสียผลอันควรมีควรได้ทางจิตใจตามความปรารถนา รวมทั้งที่ดินที่จำเลยคัดค้าน ขอให้ศาลห้ามจำเลยขัดขวางการแบ่งแยก และให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยสู้ว่า จำเลยคัดค้านการรังวัดของเจ้าพนักงานว่าไม่ถูกต้อง เพราะโจทก์นำชี้แนวเขตไม่ตรงแนวเขตอันแท้จริง โจทก์ไม่เสียหาย ค่าเสียหายที่โจทก์เสียไปเป็นเรื่องที่โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต จำเลยไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยและสามีไประวังแนวเขตตามหมายนัดของเจ้าพนักงานที่ดิน แต่มิได้คัดค้าน ไปคัดค้านเมื่อรังวัดเสร็จไป ๔ เดือนเศษแล้ว ทำให้การรังวัดแบ่งแยกที่ดินของเจ้าพนักงานไร้ผล และจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๑๐๗ ประกอบกับมาตรา ๗๐ จำเลยจะเอาเหตุที่จำเลยกระทำผิดกฎหมายมาคัดค้านให้เป็นประโยชน์แก่จำเลยไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ยกขึ้นอ้างนี้มิใช่ข้อที่ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙
ยกฎีกาโจทก์