คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความในประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.2489 ฉบับที่ 98 พ.ศ.2517 นั้น เห็นได้ชัดว่าที่จะถือว่าผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว จะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้รับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในหรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสารหรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชน เมื่อโจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าข้าวสารของกลางเป็นข้าวสารที่มีความเป็นมาดังกล่าวแล้ว ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ร่วมกันประกอบการค้าข้าวในท้องที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเขตควบคุมการค้าข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และได้ร่วมกันรับซื้อข้าวสารที่มีการซื้อ หรือได้มาจากร้านค้าย่อย ในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นที่จำหน่ายปลีกแก่ประชาชนจำนวน ๑๓๐ กระสอบ หนักประมาณ ๑๓,๐๐๐ กิโลกรัม ซึ่งมีปริมาณตั้งแต่ ๒๐๐ กิโลกรัมขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ซึ่งได้ออกให้ผู้ประกอบการค้าข้าวทุกประเภทในท้องที่ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักรต้องขออนุญาตประกอบการค้าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ (๔) แห่งพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ คณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวได้ออกประกาศห้ามบุคคลใด ๆ ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ทำการับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในหรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสารหรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆ ที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกประชาชนมีปริมาณตั้งแต่ ๒๐๐ กิโลกรัมขึ้นไป ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๘, ๙, ๑๗, ๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๘, ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ ฉบับที่ ๙๘ ลงวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๑๗ และฉบับที่ ๑๐๓ ลงวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๑๘ และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๘, ๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการค้าข้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๑๐ ประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ ฉบับที่ ๙๘ ลงวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๑๗ ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนดหกเดือน ของกลางริบ
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความในประกาศคณะกรรมการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ ฉบับที่ ๙๘ พ.ศ.๒๕๑๗ ที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยที่ ๑ กระทำการฝ่าฝืนอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าวมีว่าห้ามบุคคลใด ๆ ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ทำการรับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายใน หรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสารหรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆ ที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชน มีปริมาณตั้งแต่ ๒๐๐ กิโลกรัมขึ้นไป เห็นได้ชัดว่าที่จะถือว่าผู้ใดทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว จะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้รับซื้อหรือขายข้าวสารที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในหรือจากร้านสมทบจำหน่ายข้าวสาร หรือจากที่ว่าการเขตต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนดให้เป็นผู้จำหน่ายปลีกแก่ประชาชน สำหรับข้อหาของโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ ในคดีนี้ โจทก์ต้องนำสืบให้เห็นว่าข้าวสารของกลางซึ่งร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นที่จำหน่ายปลีกได้รับไปเพื่อจำหน่ายปลีกแก่ประชาชน และมีผู้ซื้อหรือได้ข้าวสารนั้นมาจากร้านค้าย่อยเช่นว่านั้น แล้วจำเลยที่ ๑ ได้รับซื้อข้าวสารนั้นไว้จากผู้ที่ได้ซื้อหรือได้รับมานั้นอีกทีหนึ่งแต่โจทก์มิได้นำสืบให้เห็นว่าข้าวสารของกลางเป็นข้าวสารที่มีความเป็นมาดังกล่าวเลยจึงฟังว่าจำเลยที่ ๑ ได้กระทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าวอันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติการค้าข้าว โดยได้ซื้อข้าวสารของกลางที่มีการซื้อหรือได้มาจากร้านค้าย่อยในความสงเคราะห์ของกรมการค้าภายในที่ทางราชการกำหนดให้เป็นที่จำหน่ายปลีกแก่ประชาชนตามฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษจำเลยที่ ๑ ในข้อหานี้ไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ ในข้อหากระทำการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการปฏบัติการตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ ฉบับที่ ๙๘ พ.ศ.๒๕๑๗ ด้วยของกลางคืนจำเลยที่ ๑

Share