คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดี คือ ที่ดินที่จำเลยครอบครองอยู่ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิร้องขอให้บังคับจำเลยออกจากที่ดินที่จำเลยครอบครอง คำร้องขอให้บังคับคดีของโจทก์จึงต้องยกเสียและการที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องนี้หาใช่เป็นการปฏิเสธสิทธิของโจทก์ตามคำพิพากษาหรือเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลซึ่งมีอยู่ไม่แต่เป็นเพราะโจทก์ขอให้มีการบังคับคดีไม่ตรงกับที่โจทก์ชนะคดี

ย่อยาว

เดิมโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ของโจทก์ จำเลยสู้ว่าไม่เคยอาศัยทำไร่ในที่ดินของโจทก์ ต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมรับว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยยอมออกจากที่พิพาทภายใน 1 เดือน ศาลพิพากษาตามยอม

11 พฤศจิกายน 2500 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับจำเลยเนื่องจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยแถลงต่อศาลว่าจะรื้อโรงออกไปจากที่พิพาทภายใน 7 วัน หากผิดนัดยอมให้ศาลจับขัง

10 พฤศจิกายน 2507 โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาให้เรียกจำเลยมาสอบถาม หรือหมายจับมากักขังไว้จนกว่าจำเลยจะได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา

จำเลยแถลงว่าออกไปจากที่พิพาทนานแล้วที่ที่จำเลยครอบครองอยู่ไม่ใช่ที่พิพาท

คู่ความขอให้ศาลไปเผชิญสืบที่พิพาท ศาลมีคำสั่งว่าที่ที่เผชิญสืบตรวจดูไม่ใช่ที่ของโจทก์ที่ฟ้องในคดีนี้

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดีนั้นมิใช่ที่ดินแปลงที่โจทก์ร้องขอให้มีการบังคับคดี เมื่อฟังไม่ได้ว่าที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดีคือที่ดินที่จำเลยครอบครองอยู่ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิร้องขอให้บังคับจำเลยออกจากที่ดินที่จำเลยครอบครอง คำร้องขอให้บังคับคดีของโจทก์จึงต้องยกเสีย และการที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องนี้ หาใช่เป็นการปฏิเสธสิทธิของโจทก์ตามคำพิพากษาหรือเป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาลซึ่งมีอยู่ดังฎีกาโจทก์ไม่ แต่เป็นเพราะโจทก์ขอให้มีการบังคับคดีไม่ตรงกับที่พิพาทที่โจทก์ชนะคดีต่างหาก

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share