คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำผิด ข้อ 14 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 ได้แก้ไขใหม่ให้ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี ซึ่งมีระวางโทษเบากว่าระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4 เดิม ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกยี่สิบปี ในการลงโทษจำเลยสำหรับความผิดตามวรรคนี้จึงต้องปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 340 วรรค 4 ที่แก้ไขใหม่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 3 ซึ่งบัญญัติให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิด

ย่อยาว

โจทก็ห้องว่าจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาห้องอีก ๔ คน รวมกันปล้นทรัพย์รวมเป็นราคาทั้งสิ้น ๑๒,๙๗๐ บาทไป โดยจำเลยกับพวกใช้ปืนยิงหลายนัด ใช้ผ้าขาวม้าผูกแขนเจ้าทรัพย์ทั้งสองติดกัน เป็นการขู่ขวัญและใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อเป็นความสะดวกในปล้นทรัพย์หาเอาทรัพย์ไป เพื่อให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์ และเพื่อให้พ้นจากการจับกุมขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๐,๘๓ ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ๙,๓๔๐ บาท แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่าจำเลยทำผิดตามฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา ๓๔๐,๘๓ จำคุก ๒๐ ปี ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง ให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน ๙,๓๗๐ บาท แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลฏีกาเชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายคนหนึ่งที่ร่วมกับพวกปล้นทรัพย์เจ้าทุกข์รายนี้แต่ในการปรับบทลงโทษ เห็นว่า ขณะนี้ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ซึ่งมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ตามประกาศข้อ ๑๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๔๐ และมาตรา ๓๔๐ทวิ แห่งประมวลกฎหมายอาญา และให้ใช้ความในมาตรา ๓๔๐ ใหม่ มาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ ที่แก้ไขใหม่ บัญญัติโทษฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงไว้ ให้มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี ซึ่งมีระวางโทษเบากว่าระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ เดิม ซึ่งกำหนดโทษฐานปล้นทรัพย์โดยใช้ปืนยิงไว้มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกยี่สิบปี ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๔ มาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด จึงเป็นกฎหมายที่มีระวางโทษเบากว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ เดิม ที่ใช้ในขณะกระทำผิด กรณีเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓ บัญญัติไว้ว่าให้ใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดไม่ว่าในทางใด จึงต้องปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๘๐ วรรค ๔ ที่แก้ไขใหม่ แต่เห็นว่ากำหนดโทษที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยมาให้จำคุก ๒๐ ปีนั้น เหมาะสมแก่กรณีแห่งความผิดแล้ว
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรค ๔ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๔ มาตรา วรรค ๔ ส่วนการกำหนดโทษการสั่งเรื่องของกลางและการคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

Share