แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขายที่ดินให้โจทก์พร้อมทั้งสัญญาว่าเมื่อสอบเขตแล้วที่ดินขาดจำนวนไปเท่าใด จำเลยยอมคืนเงินให้ตามส่วน นั้น ถึงแม้จำเลยจะส่งมอบที่ดินให้โจทก์แล้วก็ตาม ถ้าเป็นการส่งมอบโดยมีเงื่อนไขจะต้องตรวจสอบเขตที่ดินให้รู้จำนวนแน่นอนจึงจะถือว่าการส่งมอบบริบูรณ์นั้น อายุความฟ้องร้องต้องเริ่มนับแต่มีการส่งมองที่สมบูรณ์ปราศจากเงื่อนไขแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองขายที่ดินเนื้อที่ ๘ ไร่ให้โจทก์ราคาไร่ละ ๑๐,๖๒๕ บาท โดยจำเลยสัญญาว่า เมื่อสอบเขตที่ดินขาดเท่าใด จำเลยยอมลดเงินค่าขายลงบางส่วน ต่อมาปรากฎจากการรังวัดว่าเนื้อที่ขาดไป ๒ ไร่ราคา ๒๑,๒๕๐ บาท จำเลยไม่ยอมคืนเงินจำนวนนี้ให้ ขอให้บังคับ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดสืบพยาน พิพากษาว่าคดีขาดอายุความให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยส่งมอบที่ดินให้แก่โจทก์ผู้ซื้อและได้ทำหนังสือให้โจทก์ไว้นั้น เห็นได้ว่าเป็นการตกลงส่งมอบกันโดยมีเงื่อนไข คือ จะต้องไปตรวจสอบเขตที่ดินเพื่อให้รู้จำนวนเนื้อที่ให้เป็นการแน่นอนเสียก่อน ไม่ได้ตกลงเวลากันไว้ การตรวจสอบจึงต้องทำภายในเวลาอันสมควร เมื่อได้มีการตรวจสอบรู้จำนวนแน่นอนแล้ว จึงถือว่าเป็นการส่งมอบที่สมบูรณ์ อายุความ ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๖๗ จึงเริ่มนับแต่มีการส่งมอบที่สมบูรณ์ปราศจากเงื่อนไข
คดีนี้ โจทก์แถลงว่า ในวันเดียวกับที่ได้รับมอบที่ดินจากจำเลยนั้นเอง โจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานทำการรังวัดตรวจสอบเขตที่ดิน แต่เจ้าพนักงานเพิ่งรังวัดสอบเขตเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๐๓ ตามลำดับผู้ขอก่อนและหลัง โจทก์เพิ่งทราบว่าจำนวนเนื้อที่ดินขาดไปเมื่อเจ้าพนักงานทำการรังวัด ถ้าเป็นความจริงดังโจทก์แถลง คดีก็ยังไม่ขาดอายุความ จำเป็นจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่นั้น ชอบแล้ว
พิพากษายืน