คำสั่งคำร้องที่ 1213/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า เนื่องจากจำเลยที่ 7 ซื้อที่ดินพิพาทไว้โดยสุจริตและได้จำนองไว้กับ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นจำนวนเงิน27,000,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2524 โดยเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ดอกเบี้ยทบต้นทุกปี ต่อมาถูกโจทก์แกล้งฟ้องและได้ถ่วงเวลาทุกวิถีทาง เป็นเหตุให้จำเลยที่ 7 ทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทไม่ได้เลยเป็นเวลาถึง 7 ปีเศษแล้ว ขณะนี้จำเลยที่ 7ต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละประมาณ 885,458 บาท โดยจำเลยที่ 7 มิได้กระทำผิดอะไรเลยและไม่มีทางที่จะไปเรียกร้องจากผู้ใด บัดนี้คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาประมาณ 1 ปีเศษแล้ว จำเลยที่ 7 ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสยิ่งกว่าจำเลยอื่น และเพื่อบรรเทาความเสียหายจึงขอศาลฎีกาได้โปรดดำเนินการพิจารณาคดีนี้ก่อนคดีอื่นด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างจำเลยที่ 4 กับจำเลยที่ 7 ที่ 8 เป็นโมฆะ ให้คืนที่ดินแปลงดังกล่าวแก่โจทก์ ถ้าหากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน 40,000,000 บาทพร้อมกับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินจำนวนดังกล่าวนับจากวันโอนที่ดินของโจทก์ไปจนถึงวันฟ้องเป็นเงินดอกเบี้ย830,136.96 บาท ให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจากการขาดรายได้160,000,000 บาท กับให้จำเลยเสียค่าดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงิน 40,000,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา (อันดับ 257)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยที่ 7 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 314)

คำสั่ง
จะเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาให้ตามควรแก่กรณี

Share