แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความกล่าวว่า “เมื่อทางการเทศบาลนครกรุงเทพได้จัดที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างและจัดให้ผู้ค้าแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ 1,2,3 ยอมย้ายแผงลอยจากหน้าร้านโจทก์ไปภายใน 1 เดือน” เช่นนี้ มีความหมายว่า จำเลยที่ 1,2,3 จะย้ายต่อเมื่อเทศบาลจัดสถานที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่าง เพื่อให้จำเลยทั้งสามมีสิทธิเข้าไปทำการค้า ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าแผงที่สร้างแล้วอนุญาตให้ค้าได้เฉพาะการค้าผ้า ไม่อนุญาตสำหรับการค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนม อย่างที่จำเลยค้าจำเลยที่ 1,2,3 ยังไม่มีสิทธิเข้าไปทำการค้าในแผงนั้น กรณีจึงยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญายอมโจทก์ไม่มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยที่ 1,2,3 ออกไปได้
ย่อยาว
กรณีเนื่องจากคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และศาลพิพากษาตามยอม คดีถึงที่สุดแล้ว ตามสัญญายอมข้อ 2 กล่าวว่า”เมื่อทางการเทศบาลนครกรุงได้จัดที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างและจัดให้ผู้ค้าแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 3 ยอมย้ายแผงลอยจากหน้าร้านโจทก์ภายใน 1 เดือน” ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าเทศบาลได้จัดตั้งแผงลอยที่คลองโอ่งอ่าง และจัดผู้ตั้งแผงลอยเข้าตั้งได้แล้ว จำเลยที่ 1, 2, 3 ไม่จัดการย้ายไป ขอให้บังคับ
จำเลยที่ 1, 2, 3 คัดค้านว่า แผงลอยนั้นจัดไว้เฉพาะการค้าผ้าเท่านั้นไม่ได้จัดให้สำหรับค้าผลไม้ ดอกไม้ และขนมหวานดังจำเลยค้าจึงยังเข้าค้าในแผงลอยไม่ได้
ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยที่ 1, 2, 3 ขนย้ายออกไป
จำเลยที่ 1, 2, 3 ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามสัญญายอมข้อ 2 มีความหมายว่า จำเลยที่ 1, 2, 3 จะย้ายออกจากหน้าร้านโจทก์ต่อเมื่อเทศบาลจัดสถานที่ตั้งแผงลอยขึ้นที่คลองโอ่งอ่างเพื่อให้จำเลยทั้งสามมีสิทธิเข้าทำการค้า แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าแผงที่สร้างแล้วนั้น อนุญาตให้ค้าได้เฉพาะการค้าผ้าเท่านั้น ไม่อนุญาตสำหรับการค้าผลไม้ ดอกไม้และขนมหวานอย่างที่จำเลยค้า จำเลยที่ 1, 2, 3 ยังไม่มีสิทธิเข้าไปค้าและเทศบาลยังมิได้จัดเตรียมสถานที่ค้าสำหรับผู้ค้าผลไม้ดอกไม้ และขนมหวานไว้ให้ กรณีจึงยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญายอมโจทก์ไม่มีอำนาจขอให้บังคับจำเลยที่ 1, 2, 3 ออกไปได้
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของโจทก์