คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรนีที่ถือว่าฟ้องของโจทไม่มีมูลเปนความอาญาถานฉ้าโกง

ย่อยาว

โจทฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เปนพนักงานแผนกจำหน่ายบุหรี่ของบริสัทวิงห์บุรีจังหวัดพานิชจำกัด แต่ทำการร้านขายส่งและขายปลีกสินค้าต่าง ๆ ของบริสัทนี้โดยไช้ชื่อจำเลยที่ ๒ ออกหน้า เมื่อ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๖ จำเลยสมคบกันไช้อุบายหลอกลวงโจทโดยคำเท็ดว่า ถ้าโจทรับเซ้งร้านขายส่งของจำเลย ๒๕๐ บาท จำเลยจะจัดโอนชื่อโจทเปนผู้ขายส่งสินค้าของบริสัทสิงห์บุรีแทนจำเลยที่ ๒ และไห้โจทมีสิทธิได้รับเงินรางวัน (โบนัส) การจำหน่ายบุหรี่ซึ่งทางสำนักงานกลางจะได้จ่ายไห้แก่ร้านขายส่งนี้โจทหลงเชื่อจึงจ่ายเงิน ๒๕๐ บาท ไห้จำเลยที่ ๒ รับไปครั้นวันที่ ๒๖ พรึสจิกายน ๒๔๘๖ จำเลยบังอาดสมคบกันไปยื่นคำร้องขอรับเงินรางวัลตามกล่าวเสีย โจทจึงรู้สึกว่าจำเลยไม่ได้โอนชื่อไห้โจท โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคดฉ้อโกงโจทมาแต่ต้น ขอไห้ลงโทสตาม ม.๓๐๔
สาลชั้นต้นสั่งฟ้องว่า ฟ้องของโจทไม่มีมูลเปนความผิดถานฉ้อโกง ไห้ยกฟ้อง สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าคำบันยายฟ้องของโจทเปนเรื่องจำเลยเซ้งร้านไห้โจทโดยมีข้อตกลงเปนเงื่อนไขด้วยว่า “จะจัดโอนชื่อโจทเปนผู้ขายส่งสินค้าของบริสัทสิงห์บุรี ฯ ด้วย และจำเลยยังมิได้ปติบัติตาม” ดังว่านั้นเช่นนี้แม้โจทจะนำสืบข้อเท็ดจิงได้ความดังนั้น กรนีก็ไม่มีการนำความเท็ดมากล่าวไห้โจทหลงเชื่อรับเซ้งร้านและส่งเงิน ๒๕๐ บาท ไห้แก่จำเลยหย่างไรเลย ฟ้องของโจทจึงไม่มีมูลเปนความผิดอาญาถานฮ้อโกง จึงพิพากสายืนตามสางล่าง

Share