แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับวันถูกควบคุมตัวของจำเลยมาไม่ตรงกับความเป็นจริง จนกระทั่งศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด โดยนับวันต้องขังตามวันที่โจทก์บรรยายในฟ้อง ดังนี้ โจทก์ชอบที่จะยื่นคำร้องขอแก้วันต้องขังของจำเลยให้ตรงกับความเป็นจริงได้ เพราะไม่ใช่เป็นการขอแก้ฟ้อง และไม่ทำให้ศาลต้องแก้ไขคำพิพากษาแต่อย่างใด เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับตามคำพิพากษาเท่านั้น (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2503)
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลอาญาพิพากษาจำคุก จำเลย ๔ เดือน ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๒๗๘, ๓๖๕ (๓) แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๓๖๕ (๓) เป็นบทหนัก ประกอบกับมาตรา ๗๘ คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลชั้นต้นได้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด ให้นับวันต้องขังตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๐๑ และหักวันต้องขังชั้นสอบสวนให้ ๗๒ วัน
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า ที่โจทก์บรรยายฟ้องถึงวันต้องขังนั้น ผิดพลาดไป จึงขอให้ศาลสั่งแก้วันต้องขังของจำเลยให้ตรงกับความจริง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลไม่มีทางจะแก้ไขคำพิพากษาได้ ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า วันจำเลยถูกควบคุมในระหว่างคดี ไม่ใช่ข้อความที่กฎหมายระบุว่าจะต้องกล่าวในฟ้อง ตามที่โจทก์ขอแก้วันต้องขังของจำเลย จึงยังกล่าวไม่ได้ว่า เป็นการขอแก้ฟ้อง และการแก้วันต้องขังเช่นนี้ไม่ทำให้ศาลต้องแก้ไขคำพิพากษาแต่อย่างใด เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบังคับตามคำพิพากษาเท่านั้น โจทก์ชอบที่จะขอแก้ได้
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอาญาสั่งแก้หมายจำคุกจำเลยเสียใหม่ ให้ตรงกับความจริง