คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1320/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีจะทำร้ายภรรยาด้วยไม้หลักแจวภรรยาหนีเข้าห้องเรือนไป สามีก็ติดตามจะเข้าไปทำร้ายภรรยาให้ได้ ภรรยาจึงใช้ปืนยิง 1 นัด ถูกสามีถึงแก่ความตาย เช่นนี้เป็นการป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยิงนายฉิ่งซึ่งเป็นสามีของจำเลยตายด้วยเจตนาฆ่าขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และริบปืน

จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงนายฉิ่งปืนของนายฉิ่งลั่นขึ้นเองถูกนายฉิ่งตาย

ศาลชั้นต้นไม่เชื่อพยานโจทก์ เห็นว่ารูปคดีอาจเป็นดังจำเลยต่อสู้ จึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยยิงนายฉิ่งเพราะนายฉิ่งจะทำร้ายจำเลยด้วยไม้หลักแจว จำเลยหนีเข้าห้องเรือนไปนายฉิ่งก็ติดตามจะเข้าไปทำร้ายจำเลยให้ได้ จำเลยจึงยิงนายฉิ่งเป็นการป้องกันสิทธิของตนแต่เกินสมควรแก่เหตุพิพากษากลับว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และ 68, 69 จำคุก 2 ปี ส่วนปืนของกลางเป็นของนายฉิ่งผู้ตายไม่ควรริบ

จำเลยฎีกา ขอให้ยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ และเห็นว่านายฉิ่งมิใช่ใครอื่น แท้จริงก็เป็นสามีของจำเลยอยู่กินทราบอัธยาศัยกันมาช้านานแล้ว และเคยมีเรื่องทะเลาะทุบตีกันเสมอ ๆ ก็ไม่ปรากฏว่านายฉิ่งได้เคยทำอันตรายแก่จำเลยถึงขนาดรุนแรงหรือมากมายอย่างใดทั้งขณะนั้นภายในห้องก็มีบุตรสาวของจำเลยเป็นเพื่อนอยู่ด้วยจำเลยน่าจะทราบดีว่า แม้นายฉิ่งตามเข้าไปได้ ก็คงไม่เป็นอันตรายแก่จำเลยยิ่งไปกว่าที่เคย ๆ กันมา จำเลยใช้วิธีป้องกันตัวโดยหมายเอาชีวิตนายฉิ่งเช่นนี้ ราวกับว่ามิใช่ภริยานายฉิ่ง และหนักไปมากจึงต้องนับว่าเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share