คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม2532 และศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2532 ก็ตาม แต่ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่2 มกราคม 2533 ซึ่ง เป็นเวลาภายหลังที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ ฉะนั้นขณะฟ้องจึงมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตาม กฎหมายเรื่องจำเลยเลิกจ้างโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยได้จ้างโจทก์เป็นลูกจ้างได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายก่อนถูกเลิกจ้างวันละ 79 บาท จำเลยจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ทุก ๆ วันที่ 1 วันที่ 11 และวันที่ 21 ของทุก ๆเดือน ต่อมาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2532 จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยที่โจทก์ไม่ได้กระทำความผิด จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 14,220 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 869 บาท และค่าเสียหายในการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมจำนวน 50,000 บาทให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไล่โจทก์ออกจากงานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม2532 เนื่องจากโจทก์ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร การเลิกจ้างของจำเลยไม่ใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายให้แก่โจทก์
ศาลแรงงานกลาง พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยจำนวน 14,220 บาทและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจำนวน 1,343 บาท ให้แก่โจทก์ส่วนคำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม2532 แต่ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังได้ความว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2532 ดังนั้น ในวันที่ 15สิงหาคม 2532 จึงยังไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายเรื่องจำเลยเลิกจ้างโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2532 และข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังได้ความว่า จำเลยเลิกจ้างเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2532 ก็ตามแต่ก็ปรากฏว่าโจทก์ได้ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2533 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์ ฉะนั้น ขณะฟ้องจึงมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายเรื่องจำเลยเลิกจ้างโจทก์แล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง…”
พิพากษายืน.

Share