คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11558/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฎีกาขอให้ริบถุงพลาสติกเปล่าขนาดเล็กและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลาง แต่ฎีกาของโจทก์หาได้กล่าวโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในส่วนนี้ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 216 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91 ริบของกลาง ยกเว้นธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม (2), 66 วรรคสองและวรรคสาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 และที่ 3 อายุไม่เกินยี่สิบปี ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 33 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 1,200,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต และปรับ 1,800,000 บาท กระทงหนึ่ง ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน) จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 4 ปี และปรับคนละ 300,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 ปี และปรับ 450,000 บาท อีกกระทงหนึ่ง คำให้การชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามทุกกระทงความผิด ฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 22 ปี 1 เดือน 10 วัน และปรับคนละ 800,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน และปรับ 1,200,000 บาท ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 2 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 200,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี และปรับ 300,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 24 ปี 9 เดือน 10 วัน และปรับคนละ 1,000,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 37 ปี 4 เดือน และปรับ 1,500,000 บาท ริบของกลาง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่ห้ามมิให้กักขังแทนค่าปรับเกินกว่า 2 ปี ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่งและวรรคสาม (2), 66 วรรคสอง ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 15 ปี และปรับ 600,000 บาท คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี และปรับ 400,000 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่ให้กักขังได้ไม่เกิน 2 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ยก และให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 คืนถุงพลาสติกเปล่าขนาดเล็กและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ยังคงพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 4 โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษเฉพาะจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เท่ากับโจทก์มิได้ฎีกาเกี่ยวกับจำเลยที่ 4 คดีสำหรับจำเลยที่ 4 จึงยุติถึงที่สุดแล้ว จำเลยที่ 2 ฎีกาเพียงขอให้ลงโทษสถานเบาเท่านั้น
ข้อเท็จจริงเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 โดยจำเลยที่ 2 ไม่ฎีกาโต้แย้งฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 500 เม็ด ของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสี่ดำเนินคดีนี้โดยมีของกลางคือ 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 86 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 11.908 กรัม เมทแอมเฟตามีนจำนวน 500 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 10.149 กรัม ธนบัตรจำนวน 24,200 บาท โทรศัพท์เคลื่อนที่ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 1 คัน และถุงพลาสติกจำนวน 50 ถุง
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 500 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันกระทำความผิดฐานมี 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน จำนวน 86 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และฐานจำหน่าย 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 6 เม็ด หรือไม่ เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมามีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้โดยปราศจากความสงสัยว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 500 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันกระทำความผิดฐานมี 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 86 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และฐานจำหน่าย 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 6 เม็ด พยานหลักฐานของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ การกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนของกลางตามฟ้อง ซึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์รวม 22.057 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และฐานร่วมกันจำหน่าย 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 6 เม็ด ดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังขึ้น
ที่โจทก์ฎีกาข้อสุดท้ายทำนองว่า ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาริบถุงพลาสติกเปล่าขนาดเล็กและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางนั้น แต่ฎีกาของโจทก์หาได้กล่าวโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในส่วนนี้ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่งและวรรคสาม (2), 66 วรรคสองและวรรคสาม, 100/1, 100/2 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 และที่ 3 อายุไม่เกิน 20 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 หนึ่งในสามแล้ว ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้จำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 1,200,000 บาท ลงโทษจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 33 ปี ปรับ 900,000 บาท ฐานร่วมกันจำหน่าย 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้จำคุกคนละ 4 ปี และปรับคนละ 300,000 บาท ลงโทษจำเลยที่ 2 ให้จำคุก 6 ปี และปรับ 450,000 บาท คำให้การชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนและ 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 22 ปี 2 เดือน 20 วัน ปรับคนละ 800,000 บาท ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 22 ปี ปรับ 600,000 บาท ฐานร่วมกันจำหน่าย 3, 4 – เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 คนละ 2 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 200,000 บาท ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี และปรับ 300,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 มีกำหนดคนละ 24 ปี 10 เดือน 20 วัน และปรับคนละ 1,000,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 26 ปี และปรับ 900,000 บาท บังคับค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่ให้กักขังได้ไม่เกิน 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9

Share