คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2514

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกได้สมคบกันเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเข้าไปลักทรัพย์ แล้วร่วมกันลักทรัพย์ของผู้เสียหาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยกระทำผิดในวาระเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้กับพวกอีก 1 คนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้ร่วมกันเข้าไปในโรงงานสติมน้ำซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้างและใช้เป็นอาคารเก็บรักษาทรัพย์ที่ใช้เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงงานนี้ของบริษัทอุตสาหกรรมกระดาษไทย จำกัด โดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข แล้วจำเลยกับพวกคนนั้นได้ร่วมกันลักเหล็กข้อต่อสำหรับปิดเปิดประตูน้ำ จำนวน 6 อันราคา 1,200 บาท ของบริษัทดังกล่าวที่เก็บอยู่ในโรงงานสติมน้ำที่จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364, 365 และ 335

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้ร่วมกับนายทองปอน ตันทะเสนพวกของจำเลย กระทำผิดฐานบุกรุกและลักทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้องพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364, 365 และมาตรา 335 ให้ลงโทษตามมาตรา 335 อันเป็นกระทงที่หนักที่สุดจำคุกจำเลย 2 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364, 365 ลงโทษตามมาตรา 365 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดให้จำคุกจำเลย 9 เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน ข้อหาฐานลักทรัพย์ให้ยกเสีย

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยดังคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้เข้าไปในห้องสติมในโรงงานของบริษัทผู้เสียหายด้วยกันกับชายอีกคนหนึ่งซึ่งปรากฏต่อมาว่าชื่อนายทองปอน และฟังได้ว่าจำเลยกับนายทองปอนได้ร่วมกันลักเหล็กข้อต่อท่อน้ำของบริษัทผู้เสียหายจริงดังที่โจทก์ฟ้อง

“ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด 2 กระทงนั้น ศาลฎีกาเห็นว่ายังคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยกับพวกได้สมคบกันเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเข้าไปลักทรัพย์การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดในวาระเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบท

จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 และมาตรา 335 ให้ลงโทษตามมาตรา 335 ซึ่งเป็นบทที่หนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี “

Share