คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ โดยต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติ มาตรา 87(2), 88 และ 90 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อโจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล ไม่ว่าก่อนศาลไต่สวนหรือหลังจากศาลไต่สวนพยานโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ในเรื่องบัญชีระบุพยานจะต้องยื่นต่อศาลเมื่อใด ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ บัญญัติไว้ว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๗(๒) บัญญัติไว้ ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๘๘ และ ๙๐ และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๘ คู่ความฝ่ายใดมีความจำนงที่จะอ้างอิงเอกสารฉบับใด หรือคำเบิกความของพยานคนใด เพื่อเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของตน ให้ยื่นบัญชีแสดงเอกสารหรือสภาพของเอกสารที่จะอ้างและบัญชีรายชื่อที่อยู่ของบุคคลซึ่งคู่ความฝ่ายนั้นระบุอ้างเป็นพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ถ้าจะอ้างเอกสารหรือระบุพยานเพิ่มเติม ก็ชอบที่จะยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมได้ก่อนเสร็จการสืบพยานหลักฐานของคู่ความฝ่ายที่มีหน้าที่นำสืบก่อน ถ้าระยะเวลาที่กำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้นได้สิ้นสุดลงแล้ว คู่ความฝ่ายใดมีเหตุอันสมควรก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอระบุอ้างพยานหลักฐานที่ยังไม่ได้ระบุอ้างได้ก่อนศาลพิพากษา คดีนี้โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลเลยจึงต้องห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๗ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕
พิพากษายืน.

Share