คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย มีสภาพเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง เมื่อบริษัทจำเลยได้มีประกาศแก้ไขเปลี่ยนแปลงการลงโทษทางวินัยลูกจ้างที่ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหนักขึ้นกว่าที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 13 กำหนดไว้ เมื่อไม่ปรากฏว่าบริษัทจำเลยได้แจ้งข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อตกลง หรือฝ่ายลูกจ้างได้ให้ความยินยอมแต่อย่างใด เพียงแต่บริษัทจำเลยได้ปิดประกาศให้ลูกจ้างทราบ แม้จะไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้านก็ตาม ก็ยังไม่อาจถือว่าลูกจ้างให้ความยินยอมที่บริษัทจำเลยเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าว ดังนั้น ประกาศของจำเลย จึงไม่มีผลใช้บังคับกับบรรดาลูกจ้างได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนเงินค่าจ้าง 1,346 บาท แก่โจทก์และห้ามจำเลยหักค่าจ้างโจทก์ตามประกาศของจำเลย เรื่องการลงโทษพนักงานฯ อีกต่อไป
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยคืนค่าจ้าง 1,346 บาท แก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่าประกาศของจำเลย เรื่อง การลงโทษพนักงานที่ได้รับใบเตือนความประพฤติ มีผลใช้บังคับตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามหนังสือคู่มือพนักงาน ซึ่งเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย กำหนดขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยว่า “พนักงานที่ประพฤติผิดกฎข้อบังคับของโรงแรม จะได้รับการพิจารณาลงโทษ…..” ซึ่งข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยตามคู่มือพนักงานและประกาศของจำเลย เรื่อง การลงโทษพนักงานที่ได้รับใบเตือนความประพฤติมีสภาพเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างทั้งคู่ ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเดิมตามคู่มือพนักงาน พนักงานที่กระทำความผิดฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยสองครั้งแรกถูกลงโทษเพียงได้รับหนังสือเตือนเท่านั้น โดยมิได้ถูกลดค่าจ้างหรือเงินเดือนด้วย ต่อมาเมื่อกระทำความผิดครั้งที่สามจึงจะถูกลงโทษพนักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งการถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างนี้ก็หาเป็นภาระแก่จำเลยแต่อย่างใด ส่วนข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามประกาศของจำเลย พนักงานที่ได้รับใบเตือนความประพฤติ 1 ใบ ซึ่งก็หมายถึงได้รับหนังสือเตือนครั้งแรกจะถูกลดเงินเดือน 5 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่าประกาศของจำเลยกำหนดโทษทางวินัยลูกจ้างของจำเลยที่ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหนักขึ้นกว่าที่กำหนดไว้เดิมในคู่มือพนักงานย่อมไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้างของจำเลยยิ่งกว่า เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง หรือลูกจ้างของจำเลยให้ความยินยอมในการที่จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามประกาศของจำเลยทั้งการที่จำเลยปิดประกาศให้ลูกจ้างของจำเลยทราบแล้วแม้จะไม่มีลูกจ้างคนใดคัดค้านก็ตาม ก็ยังไม่อาจถือว่าลูกจ้างของจำเลยให้ความยินยอมที่จำเลยเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าวแล้ว ดังนั้น จำเลยไม่อาจที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการลงโทษพนักงานที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการกระทำให้ผิดไปจากวิธีการลงโทษเดิมตามที่กำหนดไว้ในคู่มือพนักงานได้ ประกาศของจำเลยจึงไม่มีผลใช้บังคับกับบรรดาลูกจ้างของจำเลย จำเลยย่อมไม่มีอำนาจลดเงินเดือนโจทก์จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ได้ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยคืนเงินค่าจ้างจำนวน 1,346 บาท แก่โจทก์ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษายืน.

Share