แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายแต่โจทก์ไม่มีพยานเห็นในขณะจำเลยยิงจึงไม่รู้ว่าจำเลยประทับปืนยิงเล็งตรงไปที่ผู้เสียหายหรือไม่ แต่ตัวจำเลยยิงเล็งไปยังผู้เสียหายแล้ว ในระยะห่างกันเพียง 7 ว่า ปลัดอำเภอผู้สอบสวนว่าต้องถูกเป้าหมาย ฉนั้นเมื่อผู้เสียหายมิได้ถูกกระสุนที่จำเลยยิง และกระสุนไปถูกชายคาเรือนห่างจากผู้เสียหาย 3 ศอก จึงอาจเป็นเพราะจำเลยไม่ได้ยิงเล็งผู้เสียหายและเล็งยิงไปยังที่หมายที่ถูกลูกกระสุนนั้นก็ได้ประกอบกับเหตุที่จำเลยทะเลาะกับผู้เสียหาย ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ถึงคุ้มแค้นจะฆ่าผู้เสียหาย ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายทีโดยเจตนา หากมีเหตุพ้นวิสัยมาขัดขวางเสีย กระสุนจึงเป็นแต่เฉียดร่างนายที ๆ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องโทษฐานลักเล่นการพนันมาแล้วขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตาม ม.๒๔๙,๖๐,๗๒
จำเลยปฏิเสธ ส่วนข้อหาเคยต้องโทษรับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๑ เดือนเพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบตาม ม.๗๒ อีก ๑ ใน ๓ แต่ให้ลดโทษเพราะคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเสีย ๑ ใน ๓ เหมือนกัน เป็นอันไม่ต้องเพิ่มต้องลดตาม ม.๓๙ คงจำคุกจำเลย ๑ เดือนนับต่อจากคดีอาญาแดงที่ ๔๓๔/๒๔๙๘
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าให้วางโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามฆ่าคนตายมีกำหนด ๑๐ ปี เพิ่มตาม ม.๗๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็น ๑๓ ปี ๔ เดือน คำรับของจำเลยชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา และประกอบกับเหตุผลทั่ว ๆ ไป ในคดีนี้ควรลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งจึงคงเหลือโทษ ๖ ปี ๘ เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาแดงที่ ๔๓๔/๒๔๙๘ ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานเห็นในขณะจำเลยยิง จึงไม่รู้ว่าจำเลยประทับปืนยิงเล็งตรงไปที่ผู้เสียหายหรือไม่ แต่ถ้าจำเลยยิงเล็งผู้เสียหายแล้วในระยะห่างกันเท่านั้น นายเยื้อน (ปลัดอำเภอ)ว่าต้องถูกเป้าหมาย ฉนั้นเมื่อผู้เสียหายมิได้ถูกกระสุนปืนที่จำเลยยิง และกระสุนไปถูกชายคาเรือนห่างจากผู้เสียหาย ๓ ศอก จึงอาจเป็นเพราะจำเลยไม่ได้ยิงเล็งผู้เสียหาย แต่ยิงเล็งไปยังที่หมายที่ถูกกระสุนนั้นก็ได้ ที่จำเลยทะเลาะกับผู้เสียหายก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ถึงคุ้มแค้นจะฆ่าผู้เสียหายศาลฎีกาไม่เชื่อว่าจำเลยเจตนายิง พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์