คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

+บรรยายฟ้องว่า+เลยกระทำการทรัพย์และขอให้โทษฐานลักทรัพย์+พิจารณาได้ความ+จำเลยทำผิดฐานของโจร จะลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้ ประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา 192 +หมายถึงความผิดโจทก์กล่าวไว้ในฟ้องการกระทำแต่ละอย่าง+เป็นความผิดได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันลักข้าวของนายชื้นไปแล้วเอาไปซ่อนไว้ในป่า รุ่งขึ้นจำเลยไปเอาข้าวที่ซ่อนไว้ ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๙๓
นายจ๊อยรับว่าได้ทำการลักจริง
นายจ๋อยปฏิเสธว่าในข้อลักทรัพย์รับว่าได้รับจ้างนายจ๊อยขนข้าว และเพิ่งทราบในขณะนั้นว่าเป็นข้าวที่ถูกลักมา
ศาลชั้นต้นลงโทษนายจ๊อยฐานลักทรัพย์ ส่วนนายจ๋อยนั้นเห็นว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้ลงโทษฐานรับของโจร จะลงโทษนายจ๋อยฐานรับของโจรไม่ได้ ให้ปล่อยตัวไป
ศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษนายจ๋อยตามมาตรา ๓๒๑
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับความผิดฐานรับของโจรนั้นจะต้องมีข้อประกอบว่า ในขณะนั้นจำเลยรู้สึกว่าเป็นของร้าย แต่ฟ้องของโจทก์ไม่มีข้อความดังนี้ ไม่พอให้จำเลยเข้าใจว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ลงโทษฐานรับของโจร ฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา ๑๕๘(๕) จึงฟังมาเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้ตามมาตรา ๑๙๒ ตอน ๒ ส่วนมาตรา ๑๙๒ ตอนท้ายหมายถึงความผิดซึ่งโจทก์กล่าวในฟ้องแล้ว แต่การกระทำนั้นหลายอย่าง แต่ละอย่างแยกเป็นความผิดได้เช่น ความผิดฐานปล้น แต่ละการกระทำอาจเป็นผิดฐานปล้น ชิง ลักทรัพย์ และทำร้ายร่างกายได้จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับนายจ๋อยจำเลย

Share