แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลแขวง เมื่อจำเลยรับสารภาพ ผู้ว่าคดีนำมาฟ้องต่อศาลแขวงด้วยวาจา ศาลบันทึกใจความฟ้องในแบบพิมพ์บันทึกคำฟ้อง ฯลฯ ตามมาตรา 20 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯลฯ ว่าจำเลยบังอาจตั้งโรงค้าไม้แปรรูปเพื่อทำการจำหน่าย และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ ตลอดข้อหา ดังนี้ถือว่า จำเลยได้กระทำภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่รัฐมนตรีได้กำหนดและประกาศตามกฎหมายแล้ว และไม้ที่มีไว้ในครอบครองก็เป็นไม้ประเภทหวงห้ามด้วย ซึ่งไม่ใช่ใจความสำคัญ ศาลจึงไม่บันทึกไว้ ข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์จึงเข้าหลักเกณฑ์เป็นความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษแล้ว
บันทึกที่ว่า จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ในแบบพิมพ์ ต้องถือว่าศาลได้สอบถามจำเลยแล้ว จึงเท่ากับ ศาลได้บันทึกคำให้การจำเลยตามที่สอบถามด้วยลายมือของศาลเหมือนกัน ย่อมมีผลใช้ได้ตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ทุกประการ
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยด้วยวาจาต่อศาลแขวงพระนครใต้ ศาลได้บันทึกคำฟ้อง คำรับสารภาพ และคำพิพากษาในบันทึก ตามมาตรา ๒๐ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวง ฯลฯ ซึ่งคำฟ้องมีใจความว่า จำเลยได้บังอาจตั้งโรงค้าไม้แปรรูป เพื่อทำการจำหน่าย และมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๗, ๔๘, ๗๓, ๗๔ ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๑๗ ริบของกลาง และในบันทึกมีข้อความเป็นตัวพิมพ์ว่า จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา แล้วจึงถึงคำพิพากษาว่า ผิดตามฟ้อง ลดแล้วปรับ ๒๕๐ บาท มิชำระจัดการตาม มาตรา ๒๙, ๓๐ ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวว่า โรงค้าไม้แปรรูปและการมีไม้แปรรูปอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ซึ่งรัฐมนตรี ได้กำหนดและคัดสำเนา ประกาศไว้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว และไม้แปรรูปที่จำเลยมีไว้ก็ไม่กล่าวว่า เป็นไม้ชนิดหวงห้ามตาม พ.ร.บ. นี้ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำฟ้องที่โจทก์ทำมาเป็นลายลักษณ์อักษร กับคำฟ้องด้วยวาจาต่างกันในประการสำคัญ คือ คำฟ้องที่ทำมาเป็นลายลักษณ์อักษร ย่อมต้องปรากฏข้อความที่โจทก์ยกขึ้นบรรยายประกอบข้อหาทุกประการ ส่วนคำฟ้องด้วยวาจา กฎหมายบังคับให้ศาลบันทึกไว้แต่ใจความแห่งคำฟ้องเท่านั้น ในคดีนี้ ศาลบันทึกใจความฟ้อง ควรถือได้ว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยด้วยข้อหาว่าจำเลยตั้งโรงค้าไม้แปรรูปและมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามที่กฎหมายบังคับไว้ คือ ได้กระทำภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ที่รัฐมนตรีได้กำหนด และประกาศตามกฎหมายแล้ว และไม้ที่มีไว้ในครอบครองก็เป็นไม้ประเภทหวงห้ามด้วย แต่ที่ไม่ปรากฏลายละเอียด เหล่านี้ ในบันทึก เพราะไม่ใช่ใจความสำคัญ ศาลจึงมิได้บันทึกไว้เอง จะถือว่าข้อหาตามคำฟ้องไม่เข้าหลักเกณฑ์เป็นความผิดตามกฎหมายที่ขอให้ลงโทษ หาชอบไม่
สำหรับบันทึกที่ว่า จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา แม้จะเป็นตัวพิมพ์ก็จริง ก็ต้องถือว่า ศาลได้สอบถามจำเลยแล้ว และจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา จึงเท่ากับศาลได้บันทึกคำให้การจำเลยตามที่สอบถามด้วยลายมือของศาลเหมือนกัน ย่อมมีผลใช้ได้ตามกฎหมายโดยสมบูรณ์
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น