คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีคนถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านสุนัขในบ้านเห่าเจ้าของบ้านตื่นฉายไฟดู เห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างต้นไม้ห่างบันไดเรือนราว 1 ศอก เจ้าของบ้านร้องถาม 2คำชายนั้นกลับวิ่งหนีเจ้าของบ้านวิ่งตาม และร้องขโมยพอถึงกอกล้วยชายนั้นเอาไม้ไผ่พุ่งใส่เจ้าของบ้านเจ้าของบ้านจึงพุ่งหอกไปที่ชายนั้นปรากฏว่าชายนั้นเป็นคนโรคเรื้อนและโรคบุรุษจมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโค และถึงแก่ความตายในคืนนั้นเพราะป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายดังนี้ ถือได้ว่า การกระทำของเจ้าของบ้านเป็นการป้องกันตัว และทรัพย์สินพอสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249

จำเลยต่อสู้ว่ากระทำโดยป้องกัน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 ประกอบด้วยมาตรา 53 ให้จำคุกไว้ 3 ปี ของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์สินของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ได้ความว่า เมื่อคืนโจทก์หาเวลา 20.00 น.เศษ ฝนตกและชาวบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว ได้มีชายคนหนึ่งถอดกลอนเข้าไปในรั้วบ้านของจำเลย สุนัขในบ้านจำเลยเห่า จำเลยตื่นและฉายไฟเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่ข้างต้นโกศลห่างบันไดเรือนประมาณ1 ศอก จำเลยร้องถาม 2 คำ ชายนั้นกลับวิ่งหนี จำเลยวิ่งตามและร้องขโมย พอถึงกอกล้วย ชายคนนั้นก็เอาไม้ไผ่พุ่งใส่จำเลย จำเลยจึงพุ่งหอกไปที่ชายคนนั้น ชาวบ้านพากันมาจึงทราบว่าเป็นนายรุนคนเป็นโรคเรื้อนและโรคบุรุษ จมูกโหว่ หากินทางรับจ้างเลี้ยงโคจำเลยไปแจ้งความต่อตำรวจ ตำรวจมานำนายรุนไป นายรุนถึงแก่ความตายในคืนนั้นประมาณ 03.00 น. ทั้งนี้เพราะนายรุนป่วยมาก่อนประกอบกับถูกทำร้ายจึงถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์สินของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ จึงพิพากษายืน

Share