คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118-1119/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยนำสินค้าควบคุมจากเขตจังหวัดอื่นเข้ามาในเขตท้องที่จังหวัดที่มีการประกาศเขตควบคุม แม้จะปรากฏว่าสินค้ายังอยู่ในเรือที่ได้บรรทุกมายังไม่มีการขนถ่ายสินค้าก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นการฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดแล้ว
จำเลยร่วมกันพยายามนำสินค้า สบู่ ผ้า บุหรี่ และไม้อัดซึ่งมิได้ผ่านด่านศุลกากร โดยถูกต้องออกไปนอกราชอาณาจักรและร่วมกันขนย้ายสบู่อันเป็นสินค้าควบคุมในท้องที่จังหวัดตราดทางทะเลกับร่วมกันขนย้ายผ้าและบุหรี่อันเป็นสิ่งของที่อยู่ในความควบคุมทางทะเลจากท้องที่จังหวัดอื่นเข้ามาในเขตจังหวัดตราดทางทะเล การกระทำของจำเลยในสินค้าแต่ละประเภทเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท จึงต้องแยกประเภทสินค้าออกเป็นกระทงความผิดแล้วลงโทษบทหนัก
คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นทั้งบทมาตราความผิดและกำหนดโทษเป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรมาตรา 27 ไม่ว่าจะเป็นพยายามกระทำความผิดหรือกระทำความผิดสำเร็จก็ตาม กฎหมายได้กำหนดโทษไว้เท่ากันคือความผิดครั้งหนึ่งให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือจำคุกไม่เกินสิบปีหรือทั้งปรับทั้งจำ เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายบทพระราชบัญญัติศุลกากรจึงเป็นบทหนักกว่าพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นในภาวะคับขัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓พระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐, ๒๓, ๒๔, ๔๐, ๔๓ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน พ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๔, ๑๐, ๒๐ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๓, ๘๔, ๙๑ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๖, ๗ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓๗, ๗๖ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. ๒๔๕๖ มาตรา๒๗๗, ๒๘๒ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิดพ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙ ประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๒๒ ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดจังหวัดตราด ฉบับที่ ๙ ลงวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ ประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขันฉบับที่ ๑๐๔ ลงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ ประกาศจังหวัดตราด ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๒๔ ริบของกลางทั้งหมด ยกเว้นเรือยนต์ส. เรืองสมุทร ๕ กับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้คืนเจ้าของจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับ และจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งแปดให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา ๒๗ ให้จำคุกคนละ ๒ ปีและปรับรวมกัน ๗,๒๗๕,๘๔๐ บาท มีความผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้า และป้องกันการผูกขาด พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐, ๒๓, ๒๔, ๔๐, ๔๓จำคุกคนละ ๓ เดือนและปรับคนละ ๓,๐๐๐ บาท มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขันพ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๔, ๑๐, ๒๐ จำคุกคนละ ๓ เดือนและปรับคนละ ๑,๐๐๐บาท จำเลยที่ ๑ และที่ ๖ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๖, ๗ ฐานมีอาวุธปืนให้จำคุกจำเลยที่ ๑ ๘ เดือนและปรับ ๔,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๖ ๖เดือน และปรับ ๓,๐๐๐ บาท ฐานพกพาอาวุธปืนจำคุกจำเลยที่ ๑ ๘ เดือนและปรับ ๓,๐๐๐ บาท จำคุกจำเลยที่ ๖ ๖ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาทจำเลยที่ ๓ และที่ ๗ มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๗, ๗๖ ให้ปรับคนละ ๑,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๗ มีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. ๒๔๕๖ มาตรา ๒๗๗, ๒๘๒ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๗๗มาตรา ๓ ให้ปรับ ๑,๐๐๐ บาท ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน ริบสินค้าไม้อัด สบู่ บุหรี่ และผ้าของกลาง ส่วนเรือ ส.เรืองสมุทร ๕ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เสื้อ กางเกง รองเท้ากระเป๋าเดินทาง และกล้องถ่ายรูปของกลางให้คืนเจ้าของจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับร้อยละ ๓๐ ของเงินสุทธิจากการขายของกลางที่ศาลสั่งริบหรือเงินค่าปรับที่จำเลยได้ชำระต่อศาลตามพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด และจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับร้อยละ ๒๐ ของราคาของกลางหรือค่าปรับตามพระราชบัญญัติศุลกากร ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยถูกจำคุกมาก่อนเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี จึงให้รอการลงโทษจำเลยทุกคนไว้มีกำหนดคนละ ๒ ปี ยกฟ้องจำเลยที่ ๔ และที่ ๕ กับข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ ๑, ๒, ๓, ๖, ๗ และ ๘
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นฟังลงโทษจำเลยที่๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ชอบแล้ว แต่ที่เรียงกระทงลงโทษโดยมิได้แยกประเภทสินค้าออกเป็นกระทงความผิดแล้วลงโทษในบทหนักเป็นการไม่ถูกต้อง พิพากษาแก้เป็นว่าสำหรับสินค้าผ้าและบุหรี่อันเป็นสิ่งของที่อยู่ในความควบคุมนั้น จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่๘ มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน พ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๔, ๑๐, ๒๐ ประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นในภาวะคับขัน ฉบับที่ ๑๐๔ พ.ศ.๒๕๒๔ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔, ๙๐ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นในภาวะคับขันอันเป็นบทหนัก จำคุกคนละ ๖ เดือน และปรับคนละ๑๐,๐๐๐ บาท ส่วนสินค้าสบู่อันเป็นสินค้าควบคุมนั้นจำเลยที่ ๑ที่ ๒ และที่ ๘ มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐, ๒๓, ๒๔,๔๐, ๔๓ ประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๒๒ ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัด กำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด จังหวัดตราด ฉบับที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๒๒ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔, ๙๐ ให้ลงโทษฐานพยายามนำสินค้าหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากรอันเป็นบทหนักให้จำคุกคนละ ๔ เดือนและปรับรวม ๒ ใน ๓ ของสี่เท่าราคาสบู่ของกลางเป็นเงิน ๑๒๓,๗๓๓.๓๓ บาทจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ มีความผิดฐานพยายามนำสินค้าไม้อัดหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔ให้จำคุกคนละ ๒ เดือน และปรับรวม ๒ ใน ๓ ของสี่เท่าราคาไม้อัดของกลางเป็นเงิน ๑๓,๓๓๓.๓๓ บาท รวม ๓ กระทงเป็นจำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ คนละ ๑ ปี และปรับคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท กับปรับรวม๑๓๗,๐๖๖.๖๖ บาท นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ ๘ เป็นเจ้าของสินค้าบุหรี่ ผ้า สบู่ และไม้อัดของกลาง ซึ่งเป็นสินค้าไม่ต้องห้าม ต้องจำกัดและไม่ต้องเสียภาษีถ้านำออกนอกประเทศสินค้าดังกล่าวได้ผ่านด่านศุลกากรมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ในขณะบรรทุกลงเรือ ส. เรืองสมุทร ๕ ซึ่งเป็นเรือที่ได้รับอนุญาตให้ทำการค้าชายฝั่ง สถานีปลายทางที่ที่นำสินค้าไปส่งคือเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำเลยที่ ๑ ทำหน้าที่เป็นนายท้ายเรือ พนักงานศุลกากรด่านมหาชัยได้ออกใบปล่อยสินค้าตามเอกสารหมายปจ.๑ ตามวันเวลาเกิดเหตุ เรือโทไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บังคับการเรือ ต.๑๒ กับพวกได้นำเรือออกตรวจ จับเรือ ส. เรืองสมุทร ๕ ยึดบุหรี่ ผ้า สบู่ และไม้อัดดังกล่าวเป็นของกลาง จำเลยที่ ๒ ทำหน้าที่เป็นนายท้ายเรือขณะถูกจับ จุดที่จับอยู่ในทะเลห่างจากปลายแหลมเทียนเกาะกูดประมาณ ๑๓ ไมล์ทะเล
ปัญหาวินิจฉัยข้อแรกมีว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ พยายามนำสินค้าของกลางซึ่งเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรณ ด่านศุลกากร คลองใหญ่ จังหวัดตราด ออกไปนอกราชอาณาจักรไทยตามฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์จำเลยแล้วฟังว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ พยายามนำสินค้าบุหรี่ ผ้า สบู่ และไม้อัดของกลางซึ่งยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร ด่านศุลกากรคลองใหญ่จังหวัดตราดโดยถูกต้อง ออกไปนอกราชอาณาจักรไทยมุ่งไปประเทศกัมพูชาโดยการใช้ จ้าง วาน ของจำเลยที่ ๘ ซึ่งเป็นเจ้าของสินค้า การกระทำของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ เป็นความผิดฐานพยายามนำสินค้าซึ่งเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรออกไปนอกราชอาณาจักรไทยตามที่โจทก์ฟ้อง
ปัญหาวินิจฉัยข้อ ๒ ที่ว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ร่วมกันนำสินค้าของกลางซึ่งเป็นสินค้าควบคุมจากจังหวัดสมุทรสาครเข้ามาในเขตจังหวัดตราดและขนย้ายสินค้าดังกล่าวออกนอกเขตจังหวัดตราดโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดตราดอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัด กำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดจังหวัดตราด ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขันพ.ศ. ๒๔๘๘ และพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยได้บรรทุกสินค้าต้องควบคุมจากจังหวัดสมุทรสาครเข้ามาในเขตท้องที่ของจังหวัดตราดแล้ว แม้จะปรากฏว่าสินค้ายังอยู่ในเรือที่ได้บรรทุกมายังไม่มีการขนถ่ายสินค้าก็ตาม การกระทำของจำเลยที่ ๑, ๒ และ ๘ ก็เป็นการฝ่าฝืนต่อประกาศของคณะกรรมการส่วนจังหวัดกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดจังหวัดตราดอันเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้ว
ปัญหาวินิจฉัยข้อ ๓ ตามที่โจทก์แก้ฎีกาว่า ฎีกาของจำเลยที่๑ ที่ ๒ และที่ ๘ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ นั้น เห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นทั้งบทมาตราความผิดและกำหนดโทษเป็นการแก้ไขมากจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ส่วนปัญหาข้อสุดท้ายตามฎีกาของโจทก์เกี่ยวกับการปรับบทลงโทษจำเลยนั้น โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ฐานร่วมกันพยายามนำสินค้า สบู่ ผ้า บุหรี่ และไม้อัดซึ่งยังมิได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้องออกไปนอกราชอาณาจักรและฐานขนย้ายสบู่อันเป็นสินค้าควบคุมในท้องที่จังหวัดตราดทางทะเล กับฐานขนย้ายผ้าและบุหรี่อันเป็นสิ่งของที่อยู่ในความควบคุมทางทะเลจากท้องที่จังหวัดอื่นเข้ามาในเขตจังหวัดตราดทางทะเล เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน ควรพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ แต่ละกระทงความผิด ซึ่งได้กระทำต่างกรรมต่างวาระกันไม่จำกัดแยกสินค้าออกเป็นประเภท ศาลชอบที่จะลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ทุกกระทงความผิดนั้นเห็นว่า การกระทำของจำเลยในสินค้าแต่ละประเภทเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยโดยแยกประเภทสินค้าออกเป็นกระทงความผิดแล้วลงโทษบทหนักนั้นชอบแล้ว แต่ที่ศาลอุทธรณ์ปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ในความผิดสำหรับสินค้า ผ้า และบุหรี่อันเป็นสิ่งของที่อยู่ในความควบคุมโดยลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขันโดยอ้างว่าเป็นบทหนักกับปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ฐานพยายามขนย้ายสบู่อันเป็นสินค้าควบคุม และปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ ฐานพยายามนำสินค้าไม้อัดหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากรมาตรา ๒๗ โดยให้ปรับ ๒ ใน ๓ ของสี่เท่าของราคาสินค้านั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่ถูกต้องดังที่โจทก์ฎีกา เพราะความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา ๒๗ ไม่ว่าจะเป็นพยายามกระทำความผิดหรือกระทำความผิดสำเร็จก็ตามกฎหมายได้กำหนดโทษไว้เท่ากันคือความผิดครั้งหนึ่งให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับสินค้า ผ้า และบุหรี่อันเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคที่อยู่ในความควบคุม จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆในภาวะคับขัน พ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๔, ๑๐, ๒๐ ประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นในภาวะคับขัน ฉบับที่ ๑๐๔ พ.ศ. ๒๕๒๔ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔, ๙๐ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ อันเป็นบทหนักให้จำคุกคนละ ๖ เดือนและปรับรวมสี่เท่าของราคาผ้าและบุหรี่ของกลางเป็นเงิน ๗,๐๗๐,๒๔๐ บาท ส่วนสินค้าสบู่อันเป็นสินค้าควบคุมนั้นจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ มีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐, ๒๓, ๒๔, ๔๐, ๔๓ ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดจังหวัดตราด ฉบับที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๒๓ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔, ๙๐ ให้ลงโทษฐานพยายามนำสินค้าหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากรอันเป็นบทหนักให้จำคุกคนละ ๔ เดือน และปรับรวมสี่เท่าราคาสบู่ของกลางเป็นเงิน ๑๘๕,๖๐๐ บาท กับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ มีความผิดฐานพยายามนำสินค้าไม้อัดหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔ ให้จำคุกคนละ ๒เดือน และปรับรวมสี่เท่าราคาไม้อัดของกลางเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทรวม ๓ กระทงเป็นจำคุกจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๘ คนละ ๑ ปีและปรับรวม ๗,๒๗๕,๘๔๐ บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share