แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ทำเป็นถนนหรือทางสาธารณะ โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อจะทำถนนผ่านที่ของโจทก์ จะต้องทำสะพานระหว่างที่ลำลาดให้น้ำไหลไปได้ และการจะทำสะพานอย่างไรต้องปรึกษากันก่อน เมื่อถนนสาธารณะตามที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ ก็ยังไม่ได้ทำขึ้น แล้วจำเลยมาทำทำนบปิดกั้นน้ำในลำลาดในที่นาของโจทก์เสีย อันเป็นการกระทำซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่โจทก์อุทิศดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าการอุทิศที่ดินของโจทก์เป็นการเสร็จเด็ดขาด อย่างมากถือได้เพียงว่าเจตนาจะอุทิศเท่านั้น โจทก์ยังไม่ขาดสิทธิครอบครองในที่รายนี้ เมื่อจำเลยบังอาจเข้ามาขุดดินทำทำนบกั้นน้ำและขุดดินทำลำเหมืองในที่ของโจทก์โดยพละการย่อมเป็นละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์มีสิทธิจะขอให้บังคับจำเลยให้ทำลายทำนบถมลำเหมืองและถมดินที่จำเลยขุดในนาของโจทก์ให้เป็นไปตามสภาพเดิมได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำทำนบกั้นน้ำในที่นาของโจทก์ โดยขุดดินในนาของโจทก์ขึ้นทำทำนบกับทำลำเหมืองโดยไม่มีอำนาจทำให้โจทก์เสียหายขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทำลายทำนบและถมลำเหมืองกับถมที่ดินที่จำเลยขุดในนาให้เป็นไปตามสภาพเดิม ถ้าจำเลยไม่สามารถจะทำได้ ก็ขอให้จำเลยใช้ค่าแรงงานที่โจทก์จะต้องจัดการเองเป็นเงิน 3,000 บาทแก่โจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้าเหมืองฝายและสั่งให้จำเลยที่ 2 ขุดดินถมทำนบในที่ที่โจทก์อุทิศที่ดินเพื่อทำถนนหรือทางสาธารณะ การทำเช่นนี้ไม่ทำให้เสียหาย ทำนบที่จำเลยทำขึ้นคิดค่าแรงและค่าใช้จ่ายราว 800 บาทเท่านั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทำนบให้เป็นทางสำหรับน้ำไหลผ่านไปได้ ถ้าจำเลยไม่สามารถจะทำได้ ให้จำเลยใช้ค่าแรงที่โจทก์ต้องจัดการเองเป็นเงิน 100 บาท ส่วนข้อที่โจทก์ขอให้จำเลยถมลำเหมืองและถมดินที่จำเลยขุดในนานั้นให้ยกเสีย
โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยทั้งสองทำลายทำนบและถมลำเหมืองกับถมดินที่จำเลยขุดในนาให้เป็นไปตามสภาพเดิม ถ้าไม่สามารถทำได้ให้จำเลยใช้ค่าแรงงานที่โจทก์จะต้องจัดการเอง 800 บาท
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาข้อแรกที่จะพึงพิจารณาคือ การที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ทำเป็นถนนหรือทางสาธารณะรายนี้จะถือว่าเป็นการอุทิศเสร็จเด็ดขาดอันเป็นการสละเจตนาการครอบครองตามกฎหมายแล้วหรือไม่ พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่โจทก์อุทิศที่ดินรายนี้มีเงื่อนไขอยู่ว่า เมื่อจะทำถนนผ่านที่ของโจทก์ จะต้องทำสะพานระหว่างที่ลำลาดให้น้ำไหลไปได้และการจะทำสะพานอย่างไรจะต้องปรึกษากัน เมื่อถนนสาธารณะตามที่โจทก์อุทิศที่ดินให้ขณะนี้ก็ยังหาได้ทำขึ้นแต่อย่างใดไม่ แล้วจำเลยมาทำทำนบปิดกั้นน้ำในลำลาดในที่นาของโจทก์เสีย อันเป็นการกระทำซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่โจทก์อุทิศดังนี้ จะถือได้อย่างไรว่าการอุทิศที่ดินของโจทก์เป็นการเสร็จเด็ดขาด อย่างมากถือได้เพียงว่าเจตนาจะอุทิศเท่านั้น โจทก์จึงยังไม่ขาดสิทธิครอบครองในที่รายนี้ การที่จำเลยบังอาจเข้ามาขุดดินทำทำนบกั้นน้ำตลอดจนขุดดินทำลำเหมืองในที่ของโจทก์โดยพละการ จึงเป็นละเมิดสิทธิโจทก์ โจทก์มีสิทธิจะขอให้บังคับจำเลยตามฟ้องได้
พิพากษายืน