คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1081/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

คดีก่อนเป็นคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่านายหน้า ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ค่าโล่ที่จำเลยสัญญาว่าจะมอบให้ และค่าปรับเงินเดือนเพิ่มพร้อมทั้งออกหนังสือรับรองเกี่ยวกับการทำงานให้โจทก์ ระหว่างการพิจารณาศาลแรงงานกลางได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่าคำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่านายหน้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุม คงพิจารณาคดีต่อไปเฉพาะประเด็นเรื่องค่าโล่และค่าปรับเงินเดือนเพิ่ม จึงเป็นการยกคำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่านายหน้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีไปแล้ว เมื่อไม่มีการอุทธรณ์คัดค้าน ข้อพิพาทในเรื่องค่านายหน้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่โจทก์ฟ้องในคดีแพ่งดังกล่าว จึงเป็นอันยุติเพราะฟ้องเคลือบคลุม ซึ่งเป็นกรณีที่ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นที่เป็นเนื้อหาแห่งคดีข้อพิพาทเรื่องค่านายหน้าจึงมิได้อยู่ในกระบวนพิจารณาในคดีแพ่งดังกล่าวต่อไปแล้วการที่โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในเวลาต่อมา โดยจำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ 36,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าค่าโล่และค่าปรับเงินเดือนเพิ่มที่โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเป็นเงิน 5,000 บาท และ 66,000 บาท รวมกันโดยไม่ระบุเป็นค่าอะไร และไม่มีข้อความที่แสดงให้เห็นว่าการประนีประนอมยอมความดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อระงับข้อพิพาทในเรื่องค่านายหน้าที่ศาลยกฟ้องเพราะฟ้องเคลือบคลุมไปแล้วด้วยแต่อย่างใด แม้ศาลแรงงานกลางและพิพากษาตามยอมไปแล้ว ก็ถือไม่ได้ว่าได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดเรื่องค่านายหน้าระหว่างโจทก์จำเลยไปแล้ว จึงไม่ต้องห้ามไม่ให้โจทก์นำค่านายหน้ามาฟ้องเป็นคดีนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่านายหน้า 416,617.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2544 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยแบ่งจ่ายค่านายหน้าจากการขายให้ลูกจ้างของจำเลยเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกร้อยละ 50 เมื่อลูกค้าลงนามในสัญญาจ้างส่วนหลังอีกร้อยละ 50 เมื่อจำเลยลงสื่อโฆษณาตามสัญญาจ้างครบถ้วนและลูกค้าได้ชำระเงินค่าจ้างแล้ว จำเลยจ่ายค่านายหน้าให้โจทก์แล้วจำนวน 543,977.77 บาท โจทก์พ้นจากการเป็นลูกจ้างจำเลยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2544 ด้วยการลาออกจากนั้นก่อนฟ้องเป็นคดีนี้โจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 เรียกให้จำเลยจ่ายค่านายหน้าจากการขายจำนวน 416,985.25 บาท และเงินอื่น คดีดังกล่าวโจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ 36,000 บาท และยอมออกใบผ่านงานและใบประกาศรับรองเกียรติคุณให้แก่โจทก์ ศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอม แล้วศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ค่านายหน้าเป็นค่านายหน้า ในส่วนแรกร้อยละ 50 ของค่านายหน้าซึ่งคิดถึงวันที่โจทก์ออกจากงาน ค่านายหน้าที่โจทก์ฟ้องในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 จำนวน 416,895.25 บาท (ที่ถูก 416,985.25 บาท) เป็นค่านายหน้าส่วนหลังอีกร้อยละ 50 ซึ่งจ่ายเมื่อจำเลยลงสื่อโฆษณาตามสัญญาจ้างครบถ้วนและลูกค้าได้ชำระเงินค่าจ้างแล้ว เช่นเดียวกับค่านายหน้าที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้ เมื่อโจทก์ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยในคดีก่อนโดยยอมรับเงินจำนวน 36,000 บาท อันเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทที่มีอยู่หรือจะมีขึ้นให้เสร็จไปโดยไม่ปรากฏข้อยกเว้นเป็นอย่างอื่น และศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมไปแล้ว การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกค่านายหน้าจำนวนเดียวกันอีกจึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน อันเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงปรากฏตามเอกสารหมาย ล.6 ล.7 ล.8 กับเอกสารท้ายคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ซึ่งเจ้าพนักงานศาลรับรองความถูกต้องและจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ในคำแก้อุทธรณ์ ซึ่งศาลแรงงานกลางรับไว้เป็นคำแถลงการณ์ให้เห็นเป็นอย่างอื่นว่า คดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายค่านายหน้า ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีค่าโล่ที่จำเลยสัญญาว่าจะมอบให้ และค่าปรับเงินเดือนเพิ่มพร้อมทั้งออกหนังสือรับรองเกี่ยวกับการทำงานให้โจทก์ ระหว่างการพิจารณาจำเลยได้ขอให้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าคำฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ และศาลแรงงานกลางได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาดังกล่าวเบื้องต้นตามคำสั่งลงวันที่ 31 ตุลาคม 2544 ว่า คำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่านายหน้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุม คงพิจารณาคดีต่อไปเฉพาะประเด็นเรื่องค่าโล่และค่าปรับเงินเดือนเพิ่ม อันเป็นการยกคำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่านายหน้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีไปแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าได้มีการอุทธรณ์คัดค้าน ข้อพิพาทในเรื่องค่านายหน้าและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่โจทก์ฟ้องในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 จึงเป็นอันยุติเพราะฟ้องเคลือบคลุม ซึ่งเป็นกรณีที่ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นที่เป็นเนื้อหาแห่งคดี ข้อพิพาทเรื่องค่านายหน้าจึงมิได้อยู่ในกระบวนพิจารณาในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 ต่อไปแล้ว การที่โจทก์จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในเวลาต่อมา โดยจำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ 36,000 บาท ซึ่งน้อยว่าค่าโล่และค่าปรับเงินเดือนเพิ่มที่โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเป็นเงิน 5,000 บาท และ 66,000 บาท รวมกัน โดยไม่ระบุเป็นค่าอะไร และไม่มีข้อความที่แสดงให้เห็นว่าการประนีประนอมยอมความดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อระงับข้อพิพาทในเรื่องค่านายหน้าที่ศาลยกฟ้องเพราะฟ้องเคลือบคลุมไปแล้วด้วยแต่อย่างใด แม้ศาลแรงงานกลางจะพิพากษาตามยอมไปแล้ว ก็ถือไม่ได้ว่าได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดเรื่องค่านายหน้าระหว่างโจทก์จำเลยไปแล้วในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 จึงไม่ต้องห้ามไม่ให้โจทก์นำค่านายหน้ามาฟ้องเป็นคดีนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4186/2544 ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ เป็นฟ้องซ้ำและพิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาประเด็นอื่นแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share