คำสั่งคำร้องที่ 3005/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 2 เป็นฎีกาทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กล่าวคือ ในประเด็นที่จำเลยที่ 2 ได้ร่วมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วยหรือไม่นั้น จำเลยที่ 2 ได้บรรยายให้เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 2เป็นความผิดต่อกฎหมายหรือไม่ และในประเด็นที่จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ลักทรัพย์ของนายจำนงค์ นาพินิจ ด้วยหรือไม่นั้นจำเลยที่ 2 ได้บรรยายให้เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 ครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ ฎีกาของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 155)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ให้ลงโทษข้อหามีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครอง จำคุก 1 ปี ข้อหานี้จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะอันเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน ลงโทษข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 42,46 จำคุก 1 เดือน จำเลยรับสารภาพในข้อหานี้ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 วัน และให้ลงโทษจำเลยทั้งสองข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุกคนละ 2 ปี ข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335,336 ทวิ,91อีกคนละ 2 กระทง จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 9 ปี 15 วัน จำเลยที่ 2 มีกำหนด 8 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 151)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 155)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่า คำเบิกความของพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 และตามคำเบิกความของนายจำนงค์นาพินิจ พยานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาลักนั้นเป็นการฎีกาดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2

Share