คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ผู้รับมฤดกคน 1 อ้างว่าทรัพย์มฤดกเป็นทรัพย์ส่วนตัวของตน ผู้จัดการย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้แสดงว่าเป็นทรัพย์มฤดกให้ โดยถือว่ามีข้อโต้แย้งตามวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.55
ศาลตัดสินว่า ถ้าโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมฤดกยังไม่ได้ขายหรือแบ่งปันก็ให้จำเลยออกจากที่พิพาทดังนี้ย่อมตัดสินได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย
โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมฤดกเคยให้ถ้อยคำไว้ในบันทึกที่อำเภอว่าทรัพย์รายพิพาทเป็นของส่วนตัวจำเลยเมื่อมีคดีก็นำสืบได้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของผู้ตายได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 และไม่ผูกมัดศาลที่จะต้องฟังตามบรรทึกที่อำเภอ

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เรือนและห้องแถวรายพิพาทเป็นมฤดกนายแหม้ว ห้ามไม่ให้จำเลยขัดขวางในการที่โจทก์จะแบ่งปันมฤดก กับให้ชำระค่าเช่าที่จำเลยเก็บไป ๑๔๘ บาท ส่วนข้อที่โจทก์ขอขับไล่นั้น ถ้าหากโจทก์ยังไม่ขายหรือแบ่งปันให้จำเลยออกจากทรัพย์ที่พิพาท
จำเลยอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ฉะเพาะข้อห้ามไม่ให้จำเลยขัดขวางการแบ่งมฤดกเป็นว่าห้ามไม่ให้จำเลยขัดขวางในการที่โจทก์จะจัดการแบ่งมฤดกนายแหม้วไปตามที่หน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาตัดสินในข้อกฎหมายดังนี้
(๑) จำเลยเคยยื่นคำร้องสอดในคดีก่อนอ้างว่าทรัพย์รายนี้เป็นของตน และยังคงยืนยันในคดีนี้อีก แม้การร้องในคดีก่อนเป็นเวลาก่อนโจทก์เป็นผู้จัดการมฤดก ก็นับว่ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิของโจทก์ในฐานเป็นผู้จัดการมฤดกนายแหม้ว โจทก์ย่อมฟ้องได้ตามวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.๕๕ ฯลฯ
(๓) จำเลยฎีกาว่าทายาทด้วยกันฟ้องขับไล่กันไม่ได้ ศาลฎีกาตัดสินว่า ศาลมิได้ขับไล่ เป็นแต่ว่าถ้าโจทก์ขายหรือแบ่งทรัพย์รายนี้ก็ให้จำเลยออกไป เมื่อยังไม่ได้แบ่งหรือขายก็ให้จำเลยอยู่ไปก่อน เมื่อโจทก์ทำการแบ่งมฤดกเมื่อจำเลยไม่ได้ จำเลยก็ต้องออกไปเป็นธรรมดาจะถือสิทธิในฐานเป็นทายาทอยู่ต่อไปไม่ได้
(๔) จำเลยฎีกาว่า อำเภอเมืองตรังเคยเรียกโจทก์และผู้รับมฤดกบางคนไปเปรียบเทียบเรื่องมฤดก โจทก์ก็ให้ถ้อยคำว่าทรัพย์รายนี้เป็นของจำเลย โจทก์จึงเถียงว่าเป็นมฤดกไม่ได้ต้องห้ามตามมาตรา ๙๔ แห่งวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลฎีกาเห็นว่ากรณีย์ไม่เข้า ม.๙๔ บรรทึกนี้เป็นเพียงพะยานชั้นหนึ่งไม่เหมือนข้ออ้างในคำคู่ความ แม้ไม่สืบหักล้าง ก็ไม่ผูกมัดให้ศาลต้องฟังตามนั้น ในที่สุดพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share