คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4536/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะเรียกเอาเงินค่าไถ่รถยนต์กระบะจากผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับรถยนต์กระบะคืนตามที่จำเลยนัดหมาย หากแต่ได้รับคืนเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจยึดได้ในท้องที่คนละอำเภอกับที่จำเลยนัดหมายให้ไปรับคืน ทั้งเป็นเวลาหลังจากที่จำเลยนัดหมายไว้นานถึงประมาณ 10 วัน ไม่อาจสันนิษฐานว่าคนร้ายนำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้เพื่อให้ผู้เสียหายรับคืนไปได้ จำเลยอาจสวมรอยคนร้ายเรียกเอาเงินจากผู้เสียหายเพียงลำพัง ไม่ได้ช่วยคนร้ายจำหน่ายรถยนต์กระบะของผู้เสียหายโดยวิธีให้ผู้เสียหายไถ่คืนก็ได้ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 357และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 44,000 บาทแก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก จำคุก 4 ปี จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่คงจำคุก 3 ปี ข้อหาและคำขออื่นให้ยก

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง มีคนร้ายหลายคนเข้าไปในเคหสถานของนายเซี้ยน มีเสนผู้เสียหาย แล้วร่วมกันลักรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน น – 6730 พัทลุง ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต ต่อมาวันที่ 6 ธันวาคม 2538 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานตำรวจยึดได้รถยนต์กระบะของผู้เสียหายซึ่งจอดทิ้งไว้ในสวนยางพาราในท้องที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า จำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 หรือไม่ โจทก์มีผู้เสียหายเบิกความว่าจำเลยเรียกเงินค่าไถ่รถยนต์กระบะจำนวน 60,000 บาท ผู้เสียหายต่อรองเหลือจำนวน55,000 บาท และมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้จำเลยไป จำเลยบอกผู้เสียหายว่าอีก 2 วันให้ไปรับรถยนต์กระบะคืนที่อำเภอบางขัน ผู้เสียหายไปตามนัด แต่ไม่ได้รถยนต์กระบะคืนหลังจากนั้นอีกประมาณ10 วัน เจ้าพนักงานตำรวจพบรถยนต์กระบะของผู้เสียหายจอดทิ้งไว้ในสวนยางพาราในท้องที่อำเภอทุ่งสง เห็นว่า แม้จำเลยจะเรียกเอาเงินค่าไถ่รถยนต์กระบะจากผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับรถยนต์กระบะคืนตามที่จำเลยนัดหมาย หากแต่ได้รับคืนเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจยึดได้ในท้องที่อำเภอทุ่งสงคนละอำเภอกับที่จำเลยนัดหมายให้ไปรับคืน ทั้งเป็นเวลาหลังจากที่จำเลยนัดหมายไว้นานถึงประมาณ 10วัน ไม่อาจสันนิษฐานว่าคนร้ายนำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้เพื่อให้ผู้เสียหายรับคืนไปได้ จำเลยอาจสวมรอยคนร้ายเรียกเอาเงินจากผู้เสียหายเพียงลำพัง มิได้ช่วยคนร้ายจำหน่ายรถยนต์กระบะของผู้เสียหายโดยวิธีให้ผู้เสียหายไถ่คืนก็ได้ พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 หรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share