แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลอกให้เขาลงลายมือในหนังสือสัญญากู้ที่มีจำนวนเงินเกินจากความจริงมีผิดฐานฉ้อ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ม.3 ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้ง 2 ตัดสินยืนกันมาฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
ได้ความว่า พ.เป็นผู้เขียนสัญญากู้ขึ้นฉบับหนึ่งแล้ว พ.ร.ได้ไปบ้านโจทก์ อ่านให้โจทก์ฟังว่า ห.สามีโจทก์กู้เงินของ ร.ไป ๒๐๐ บาท แล้วให้โจทก์ลงลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือนั้น แต่ความจริงข้อความในหนังสือสัญญานั้นเขียนไว้ว่า ห.และโจทก์เป็นผู้กู้เงินของ ร.ไป ๑๑๕๐ บาทดังนี้
ศาลเดิมและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า พ.ร.มีผิดตาม ม.๓๐๔ ให้จำคุกคนละ ๓ เดือน (ส่วนนายสี นางสิน จำเลยนั้น ศาลเดิมไต่สวนมูลฟ้องเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องด้วย จึงไม่เรียกตัวมาพิจารณา)
พ.ร.จำเลยฎีกข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงข้อกฎหมายคัดค้านว่า โจทก์จะฟ้องเป็นทางอาญาไม่ได้เพราะกรณีโต้เถียงกันในทางแพ่ง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องบทห้ามตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ม.๓ ส่วนข้อกฎหมายนั้นเห็นว่า ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงโจทก์ให้ลงลายพิมพ์นิ้วมือในสัญญากู้โดยบอกและอ่านจำนวนเงินมากเป็นน้อยให้ผิดจากความจริงเช่นนี้ รูปคดีเป็นความผิดฐานฉ้อ โจทก์มีอำนาจฟ้องได้ จึงตัดสินยืนตามศาลล่าง