คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานด้านธุรการ ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกระทำมิชอบเกี่ยวกับงานด้านทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,157 และ 162จำเลยจึงไม่อาจกระทำความผิดตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 148,157, 162, 267, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชนพ.ศ. 2526 มาตรา 14
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 148, 162, 91 เรียงกระทงลงโทษโดยลงโทษตามมาตรา 148และ 162 ซึ่งเป็นบทเฉพาะ จำคุกกระทงละ 5 ปี และ 2 ปี ตามลำดับรวมจำคุก 7 ปี สำหรับความผิดฐานแจ้งความเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามมาตรา 137, 267 และความผิดตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน โจทก์มิได้บรรยายฟ้องเพื่อให้ลงโทษ และตามพยานโจทก์ที่นำสืบไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำการเป็นความผิดฐานนี้จึงให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 157 และมาตรา 162 หรือไม่ เห็นว่าองค์ประกอบสำคัญในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ผู้กระทำจะต้องเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ มาตรา 157ผู้กระทำจะต้องเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และมาตรา 162 ผู้กระทำจะต้องเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร ทั้งนี้หมายถึงอำนาจหน้าที่ในขณะกระทำความผิด ข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของนายถนอม ส่งเสริม นายอำเภอเขมราฐ นายณรงค์เชาวณ์ลิลิตกุล เจ้าพนักงานปกครองผู้มีหน้าที่รับผิดชอบงานบัตรประจำตัวประชาชนของอำเภอดังกล่าว นายเดชา วงศ์ตระกูลปลัดอำเภอฝ่ายส่งเสริมอาชีพ พยานโจทก์ และคำสั่งอำเภอเขมราฐที่13/2525 ตามเอกสารหมาย ล.1 ว่า จำเลยได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานด้านธุรการเท่านั้น จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2525 เป็นต้นไป โจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกระทำมิชอบเกี่ยวกับงานด้านทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชนเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2526 ถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2526 ซึ่งเป็นเวลาที่จำเลยมิใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งในด้านเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์และในด้านเกี่ยวกับการทำบัตรประจำตัวประชาชน จำเลยจึงไม่อาจกระทำความผิดตามกฎหมายมาตราดังกล่าวข้างต้นได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share