คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 736/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เคยฟ้องจำเลยหาว่านำไม้หวงห้ามเคลื่อนย้ายโดยมิได้รับอนุญาต และไม่มีใบเบิกทางของเจ้าพนักงาน จนจำเลยได้รับโทษ คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อแรากฎว่าขณะที่จำเลยกระทำผิดในคดีก่อนนั้น จำเลยก็มีไม้ของกลางนั้นไว้ ในครอบครอง โดยไม่มีตราค่าภาคหลวงอยู่แล้ว แต่โจทก์ไม่ฟ้องจำเลยในฐานมีไม้ไม่มีตราค่าภาคหลวงในคราว นั้นด้วย ครั้นเมื่อคดีก่อนนั้นถึงที่สุดดังกล่าวแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องจำเลยว่า มีไม้หวงห้ามของกลางนั้นไว้ในครอบ ครองโดยไม่มีตราค่าภาคหลวงวตามวันเวลาเดียวกับที่หาว่า จำเลยกระทำผิดในคดีก่อนอีกเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเป็น เรื่องฟ้องซ้ำ ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39 (4)./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยยังอาจมีและรับไม้สักอันเป็นไม้หวงห้ามยังไม่ได้แปรรูก และไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงไว้ใน ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ และริบไม้ของกลาง.
จำเลยต่อสู้ว่า ฟ้องซ้ำ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าเป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้ว ได้ความว่า ไม้ของกลางรายนี้จำเลยได้เคยถูกฟ้องว่า นำเคลื่อนย้ายโดยมิได้รับอนุญาต และ ไม่มีใบเบิกทางของเจ้าพนักงานจำเลยต้องรับโทษ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ขึ้นอีก หาว่าจำเลยได้กระทำผิด มีไม้หวงห้าม ยังไม่ได้แปรรูกไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีตราค่าภาคหลวง ตามวันเวลาเดียว กับที่หาว่าจำเลยกระทำผิดในคดีก่อน ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นกรรมเดียวกัน เพราะในคดีก่อนความก็ปรากฎอยู่ว่าจำเลยมี ไม้ของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่มีตราค่าภาคหลวงอยู่แล้ว แต่โจทก์หาได้ฟ้องร้องในฐานนี้ด้วยไม่ จึงเป็นเรื่องฟ้อง ซ้ำ ต้องห้าม ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๓๙ (๔).
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share