แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยตกลงกันนำเช็คพิพาทและเช็คฉบับอื่น ๆ ที่จำเลยนำไปแลกเงินสดจากโจทก์รวมจำนวนหนี้กันแล้ว โจทก์ยอมให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ตามเช็คทั้งหมดได้เป็นงวด ๆ และจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์บางส่วนแล้ว แต่มิได้ระบุว่าเป็นการชำระหนี้ตามเช็คฉบับใดบ้าง ทั้งโจทก์มิได้คืนเช็คให้เมื่อจำเลยนำเงินมาชำระ แสดงว่าโจทก์มีเจตนาต้องการบังคับเอาชำระหนี้ตามเช็คด้วยในกรณีที่จำเลยมิได้นำเงินมาชำระตามที่ตกลงกันไว้ เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้ต่อกันและมิได้มีการตกลงกันระหว่างโจทก์จำเลยว่าให้ยึดถือเช็คไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ของจำเลย เมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินไม่ได้เพราะบัญชีปิดแล้ว จำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯมาตรา 3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2493 มาตรา 3ให้จำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยออกเช็คพิพาทนำไปแลกเงินสดจากโจทก์ ครั้นถึงกำหนดวันที่ใช้เงินตามเช็คโจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า บัญชีปิดแล้ว คงมีปัญหาว่าเช็คพิพาทมีมูลหนี้ต่อกันหรือไม่ และเป็นเช็คออกให้เพื่อเป็นประกันเงินยืมหรือไม่ โจทก์เบิกความว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์สองแสนบาทเศษยังไม่ได้ชำระ โจทก์แจ้งความเรื่องเช็คที่จำเลยค้างชำระไว้หลายคดี ซึ่งตรงกับที่จำเลยนำสืบว่า จำเลยนำเช็คหลายฉบับรวมทั้งฉบับพิพาทไปแลกเงินสดจากโจทก์รวมแล้วเป็นเงิน250,000 บาท ต่อมาจำเลยขอผ่อนชำระให้โจทก์ 24 งวด และจำเลยได้ชำระให้โจทก์บางส่วนเป็นเงิน 69,740 บาท ศาลฎีกาเห็นว่าแม้ฟังได้ว่า ก่อนฟ้องคดีนี้ โจทก์จำเลยตกลงกันนำเช็คพิพาทและเช็คฉบับอื่น ๆ ที่จำเลยนำไปแลกเงินสดจากโจทก์รวมจำนวนหนี้กันแล้ว โจทก์ยอมให้จำเลยผ่อนชำระหนี้ตามเช็คทั้งหมดได้เป็นงวด ๆ และจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์บางส่วนแล้วแต่ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชำระหนี้ตามเช็คฉบับใดบ้าง ทั้งโจทก์ก็มิได้คืนเช็คให้เมื่อจำเลยนำเงินมาชำระ แสดงว่าโจทก์มีเจตนาต้องการบังคับเอาชำระหนี้ตามเช็คด้วยในกรณีที่จำเลยมิได้นำเงินมาชำระตามที่ตกลงไว้ เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้ต่อกันและมิได้มีการตกลงกันระหว่างโจทก์จำเลยว่าให้ยึดถือเช็คไว้เพื่อเป็นประกันหนี้ของจำเลย เมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินไม่ได้เพราะบัญชีปิดแล้ว จำเลยจึงมีความผิดดังฟ้อง”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น