แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขับรถยนต์แซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเมื่อถนนยังมีช่องว่างพอที่จะขับแซงได้สะดวกและก่อนแซงก็ได้ให้แตรสัญญาณขอทาง เมื่อรถข้างหน้าเปิดทางให้แล้วจึงแซง ทั้งจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วธรรมดา การที่ผู้ตายเดินเซเข้าหารถจำเลยจึงถูกรถจำเลยชน ทั้งๆ ที่จำเลยได้หักรถหลบไปโดนรถคันอื่นแล้วยังไม่พ้นเช่นนี้ จะถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจขับรถยนต์ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้ชนนายกิมโห้ยได้รับบาดเจ็บถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ขณะจำเลยขับแซงขึ้นหน้ารถโดยสารผู้ตายกำลังเดินอยู่บนขอบหญ้านอกผิวจราจร ในถนนส่วนนี้เป็นผิวจราจรยังมีช่องว่างอยู่อีกมากพอที่จะขับแซงได้โดยสะดวก ก่อนจะแซงจำเลยได้ให้แตรสัญญานขอทาง เมื่อรถโดยสารข้างหน้าแอบชิดซ้ายเปิดทางให้แซงได้แล้ว จำเลยจึงแซง ทั้งจำเลยได้รับรถมาด้วยความเร็วตามธรรมดาเช่นนี้ย่อมถือได้ว่า จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอตามสมควรแล้ว จะเรียกว่าจำเลยกระทำการโดยประมาทปราศจากความระมัดระวังหาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์