แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ของนายจ้างไปส่งของตามที่มีผู้สั่ง และได้รับอนุญาตให้ใช้รถจักรยานยนต์ดังกล่าวขับกลับบ้านด้วย วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาเลิกงานตามปกติ แต่ได้แวะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้วขับรถกลับบ้านจึงเกิดเหตุ แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ซึ่งเป็นการนอกเวลาทำงานปกติ แต่จำเลยที่ 1 ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ขับรถจักรยานยนต์ไปเก็บที่บ้าน การที่จำเลยที่ 1 ขับรถกลับบ้านถึงเป็นไปตามคำสั่งอนุญาตของนายจ้าง ทั้งนี้เพื่อจะนำรถดังกล่าวขับกลับมาทำงานให้นายจ้างตามปกติในวันรุ่งขึ้น จึงต้องถือว่า อยู่ในกรอบแห่งทางการที่จ้างของนายจ้าง ่ความหมายของทางการที่จ้างนั้นมิได้จำกัดอยู่ในเฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ได้ขับรถจักรยานยนต์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังชนรถจักรยานยนต์ที่นายมุ่งกวงขับมา เป็นเหตุให้นายมุ่ยกวงถึงแก่ความตาย โจทก์เป็นมารดานายมุ่ยกวง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๖๙,๘๓๕ บาท กับดอกเบี้ย นับแต่วันฟ้องจนกว่า จะชำระเสร็จ
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้การว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ได้เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และไม่ได้ทำละเมิดต่อโจทก์ ค่าเสียหายไม่มากดังฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์เป็นเงิน ๕๓,๔๙๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันทำการละเมิด จนกว่าจะชำระเสร็จให้ยกฟ้องของโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ ๒ ที่ ๓
โจทก์อุทธรณ์ให้จำเลยที่ ๒ รับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๓
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ แต่มิได้กระทำไปในทางการที่จ้าง จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ และวินิจฉัยปัญหาที่ว่าจำเลยที่ ๑ กระทำไปในทางการที่ข้างของจำเลยที่ ๒ หรือไม่ ว่า จำเลยที่ ๑ ทำงานเป็นลูกจ้างในร้านของจำเลยที่ ๒ มีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งของตามที่มีผู้สั่ง รถจักรยานยนต์เป็นของจำเลยที่ ๒ น้อยชายของจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้ช่วยจำเลยที่ ๒ ในการดูแลกิจการของร้านได้อนุญาตให้จำเลยที่ ๑ ใช้รถดังกล่าวขับกลับบ้านได้ด้วย วันเกิดเหตุจำเลยที่ ๑ ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาเลิกงานตามปกติ แต่ได้แวะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้วจึงขับรถกลับบ้านเพื่อจะเอารถไปเก็บจึงเกิดเหตุขึ้น แม้ขณะเกิดเหตุจะเป็นเวลาประมาณ ๒๐ นาฬิกาซึ่งเป็นการนอกเวลาทำงานปกติ แต่จำเลยที่ ๑ ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ขับรถจักรยานยนต์ไปเก็บที่บ้าน การที่จำเลยที่ ๑ ขับรถกลับบ้านถึงเป็นไปตามคำสั่งอนุญาตของนายจ้าง ทั้งนี้เพื่อจะนำรถดังกล่าวขับกลับมาทำงานให้นายจ้างตามปกติในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง จึงต้องถือว่า อยู่ในกรอบแห่งทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ความหมายของทางการที่จ้างนั้นมิได้จำกัดอยู่ในเฉพาะในเวลาทำงานของนายจ้างเท่านั้น ยังต้องคำนึงถึงเหตุอื่นประกอบด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑