คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายอ้างว่าจำเลยกลั่นแกล้งโจทก์ให้ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรม ก่อนออกจากงานมีสาเหตุโต้เถียงกับจำเลยและโจทก์แถลงว่า ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุและไม่ได้รับการบอกล่วงหน้า เป็นค่าเสียหายฐานถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยแถลงต่อสู้คดีว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมีสาเหตุว่าโจทก์สมควบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อ ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังที่โจทก์ฟ้องและแถลงว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีสาเหตุ มิใช่เพราะโจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อพังจำเลยต่อสู้ การกระทำของจำเลยก็เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ เพราะการเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุย่อมไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างอยู่ในตัวอย่างไม่ชอบที่จะงดสืบพยาน ต้องฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวงล้อจำเลย ได้กลั่นแกล้งโจทก์ให้ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรม โดยไม่แจ้งเหตุผลและมิได้บอกล่วงหน้าก่อนออกจากงาน โจทก์มีสาเหตุโต้เถียงกับจำเลยเพราะโจทก์ไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ไม่อาจหางานใหม่ได้ในเร็ววัน ขอศาลพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์
ในวันพิจารณา โจทก์แถลงตามที่ศาลสอบว่า ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุและไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้า จึงเรียกค่าเสียหายฐานถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยแถลงต่อสู้คดีว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยมีสาเหตุว่าโจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อ
ศาลแรงงานกลางกำหนดประเด็นพิพาทว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ แล้วเห็นว่ารูปคดีพอวินิจฉัยได้ มีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย และวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีสาเหตุเป็นเรื่องความพอใจของจำเลยที่อยากจะจ้างโจทก์ต่อไปหรือไม่ตามสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยอ้างว่าจำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างโจทก์โดยไม่แจ้งเหตุผลและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า และแถลงตอบคำถามของศาลแรงงานกลางว่า ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเป็นค่าเสียหายที่โจทก์ถูกเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุและไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าจึงเรียกค่าเสียหายฐานถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม จำเลยแถลงต่อสู้คดีอันนับเป็นคำให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยมีสาเหตุว่าโจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อ ศาลแรงงานกลางจึงกำหนดประเด็นพิพาทว่าจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่นั้น เห็นว่า ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังที่โจทก์ฟ้องและแถลงว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีสาเหตุ มิใช่เพราะโจทก์สมคบกับพวกขโมยแบบแปลนการสร้างวงล้อดังจำเลยต่อสู้ การกระทำของจำเลยก็เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๙ เพราะการเลิกจ้างโดยไม่มีสาเหตุย่อมไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างอยู่ในตัว รูปคดียังไม่ชอบที่จะงดสืบพยาน ต้องฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความเสียก่อน
พิพากษาคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share