คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นภรรยาผู้ตาย ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุตรขอให้ (1) ส่งทรัพย์สินของผู้ตายทั้งหมดให้โจทก์มีสิทธิยึดถือครอบครองแต่ผู้เดียว หรือว่า (2) ให้แบ่งปันทรัพย์ซึ่งโจทก์มีส่วนได้รับ 2206 บาท ดังนี้ศาลบังคับให้ตามฟ้องโจทก์ไม่ได้ เพราะคำขอข้อ 1 ไม่ใช่เรื่องขอเข้าจัดการมฤดกตามกฎหมาย เป็นการขอเข้าครอบครองเฉย ๆ ซึ่งจำเลยเป็นทายาทมีส่วนได้ในกองมฤดกอยู่ด้วย จึงทำไม่ได้ คำขอข้อ 2 โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเป็นเรื่องขอแบ่งสมรสและแบ่งมฤดก จำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้ในเรื่องสินเดิมของผู้ตาย ไม่มีทางจะแบ่งให้ในคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนายแบนเป็นสามีภรรยากันมา ประมาณ ๓๐ ปี เกิดบุตร ๘ คนรวมทั้งจำเลยทั้งสอง เกิดทรัพย์สินหลายอย่างตามบัญชีท้ายฟ้อง เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ ได้แยกกันอยู่ชั่วคราว ต่อมานายแบนตาย โจทก์จะเข้าปกครองทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้อง จำเลยขัดขวาง จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งทรัพย์ทั้งหมดให้โจทก์มีสิทธิยึดถือครอบครองแต่ผู้เดียว ถ้าส่งไม่ได้ให้ใช้ราคาหรือให้แบ่งปันทรัพย์ซึ่งโจทก์มีส่วนได้รับ ๒๒๐๖ บาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งมฤดกนายแบน เพราะโจทก์กับนายแบนได้หย่าขาดกันก่อนนายแบนตาย
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ยังไม่ได้หย่าขาดกับนายแบน โจทก์จึงมีสิทธิปกครองทรัพย์สิ่งของโจทก์กับนายแบนในฐานะผู้ปกครองได้ พิพากษาให้โจทก์ปกครองทรัพย์รายนี้ต่อไป ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำของโจทก์มิใช่ขอเข้าจัดการมฤดก เพื่อแบ่งปันให้ทายาทตามกฎหมาย เป็นการขอเข้าครอบครองเฉย ๆ ซึ่งทำไม่ได้ เพราะจำเลยก็เป็นทายาทของผู้ตาย ซึ่งมีส่วนได้ในกองมฤดกนี้ด้วย ส่วนที่ขอแบ่งเป็นสมรสและมฤดกนั้น โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องตั้งรูปคดีมาในทางนี้ตั้งแต่ต้น จึงไม่มีทางแบ่งให้ในคดีนี้
พิพากษายืน

Share