แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองครั้งที่ 4 แก่ผู้คัดค้าน นอกจากจำเลยจะเป็นหนี้ผู้คัดค้าน จำเลยยังเป็นหนี้เจ้าหนี้รายอื่นรวมทั้งหมด 5 ราย เป็นเงินกว่า 11,000,000 บาท การที่ อ.ซึ่งเป็นประธานสหกรณ์จำเลยรู้อยู่ว่าจำเลยเป็นหนี้บรรดาเจ้าหนี้อื่นอยู่เป็นจำนวนมาก ยังไปกระทำการจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองเป็นประกันดังกล่าวให้ผู้คัดค้าน โดยที่ขณะนั้นจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นพอชำระหนี้เจ้าหนี้อื่น การจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองเป็นประกันดังกล่าวจึงเป็นการกระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ศาลต้องเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองดังกล่าวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 115 กรณีพิพาทแห่งคดีผู้คัดค้านไม่ใช่บุคคลภายนอกตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 116 ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านกระทำไปโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนก่อนมีการขอให้ล้มละลายหรือไม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าจำเลยจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองเป็นประกันครั้งที่ 4 แก่ผู้คัดค้านเป็นเงิน 3,500,000 บาท ในระหว่าง 3 เดือน ก่อนมีการขอให้ล้มละลาย ทำให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองระหว่างจำเลยกับผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยกู้เบิกเงินเกินบัญชีจากผู้คัดค้านโดยมีที่ดินจำนองเป็นประกัน ต่อมามีการจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองหลายครั้งซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจตามวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการของผู้คัดค้านตามปกติ ผู้คัดค้านเป็นบุคคลภายนอกกระทำโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้เพิกถอนการจดทะเบียนเฉพาะขึ้นเงินจำนองเป็นประกันครั้งที่ 4 ระหว่างจำเลยกับผู้คัดค้านให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากนายอุ่นเรือนพุทธมาจารย์ ซึ่งเป็นประธานสหกรณ์จำเลยพยานผู้ร้องว่า นอกจากเป็นหนี้ผู้คัดค้านแล้วจำเลยยังเป็นหนี้เจ้าหนี้รายอื่นอีกรวมทั้งหมด 5 ราย เป็นเงินกว่า 11,000,000 บาท และขณะจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองเป็นประกันครั้งที่ 4 จำเลยเป็นหนี้เจ้าหนี้รายอื่นอยู่ก่อนแล้ว การที่นายอุ่นเรือนซึ่งเป็นประธานสหกรณ์จำเลยรู้อยู่ว่าจำเลยเป็นหนี้บรรดาเจ้าหนี้อื่นอยู่เป็นจำนวนมาก ยังไปกระทำการจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองดังกล่าวให้ผู้คัดค้านโดยที่ขณะนั้นจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นพอชำระหนี้แก่บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายจึงฟังว่าจำเลยจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองเป็นประกันครั้งที่ 4 เป็นการกระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น ซึ่งศาลต้องเพิกถอนการจดทะเบียนจำนองดังกล่าวตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 115 และกรณีพิพาทแห่งคดีผู้คัดค้านไม่ใช่บุคคลภายนอกตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 116
พิพากษายืน