แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มาตรา 798 ที่บัญญัติว่า การตั้งตัวแทนต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ สำหรับกิจการที่ท่านบังคับไว้ว่าต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้นเป็นกรณีสำหรับการที่บุคคลกระทำการตั้งตัวแทนโดยมีการตกลงกันระหว่างตัวการและตัวแทนเช่นนั้นจริงๆ
ส่วนมาตรา 821 นั้นเป็นกรณีที่มิได้มีการตั้งตัวแทนกันโดยจริงจังแต่ว่าเป็นกรณีที่บุคคลหนึ่งแสดงออกต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริต หรือยอมให้บุคคลอีกบุคคลหนึ่งแสดงออกต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตนั้น ให้เขาหลงเชื่อว่าบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน กฎหมายจึงบัญญัติให้บุคคลซึ่งแสดงออกหรือยอมให้เขาแสดงออกซึ่งความไม่จริงนั้น ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริต เสมือนหนึ่งว่าบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน
ฉะนั้นในกรณีที่บุคคลภายนอกฟ้องร้องจำเลยให้ต้องรับผิดในการกระทำอันไม่เป็นจริงของจำเลย โดยการเชิดผู้อื่นให้เขาหลงเชื่อว่าเป็นตัวแทนของตนแล้ว จำเลยจะอ้างมาตรา 798 มาแก้ตัวให้พ้นจากความรับผิดไม่ได้
ย่อยาว
ความว่า ห้างหุ้นส่วนสามัญบริษัทกรุงเทพฯ พาณิชย์มีชื่อผู้ถือหุ้นเพียง 2 คน คือจำเลยทั้งสองและนายบุญศรีจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการ ได้ทำสัญญาซื้อเรือยนต์ “ไทยเสน่ห์” จากโจทก์ โดยนายประพันธ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว) เป็นผู้ลงนามเป็นคู่สัญญากับโจทก์แทนจำเลยและห้างหุ้นส่วนกรุงเทพฯ พาณิชย์ แต่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อตกลงด้วยตนเองโจทก์ได้ส่งมอบเรือยนต์ให้แก่จำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ชำระราคาตามกำหนด โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินค่าเรือแก่โจทก์ และรับโอนกรรมสิทธิ์ เรือไปจากโจทก์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายประพันธ์เป็นผู้จัดการ และมีอำนาจลงนามแทนห้างหุ้นส่วน จึงเป็นการปิดปากจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นหุ้นส่วนในบริษัทกรุงเทพฯ พาณิชย์ด้วย และเมื่อตัวจำเลยเองเป็นผู้ไปทำการตกลงในการซื้อขายตั้งแต่เริ่มแรก จึงไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยต้องรับผิดชอบตามสัญญาซื้อขาย พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าเรือ และรับโอนกรรมสิทธิ์เรือไปจากโจทก์ตามสัญญา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามมาตรา 798 ที่บัญญัติว่าการตั้งตัวแทนต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือเป็นหนังสือ สำหรับกิจการที่ท่านบังคับไว้ว่า ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้นเป็นกรณีสำหรับการที่บุคคลกระทำการตั้งตัวแทนโดยมีการตกลงกันระหว่างตัวการและตัวแทนเช่นนั้นจริง ๆ ส่วนมาตรา 821 นั้นเป็นกรณีที่มิได้มีการตั้งตัวแทนกันจริงจัง แต่ว่าเป็นกรณีที่บุคคลหนึ่งแสดงออกต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริต หรือยอมให้บุคคลอีกคนหนึ่งแสดงออกต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตนั้น ให้เขาหลงเชื่อว่าบุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน กฎหมายจึงบัญญัติให้บุคคลซึ่งแสดงออกหรือยอมให้เขาแสดงออกซึ่งความไม่จริงนั้น ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนหนึ่งว่า บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเป็นตัวแทนของตน จึงเป็นคนละกรณีและไม่อยู่ในบังคับแห่งมาตรา 798 แต่ประการใด
พิพากษายืน