แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยจะผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นรายงวดรวม 7 งวด ผิดนัดงวดใดถือว่าผิดนัดทั้งหมด ยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ ตกลงชำระงวดแรกวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 แต่จำเลยนำเงินมาวางศาลชำระหนี้ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2547 ช้าไปเพียง 2 วันทำการ แต่ศาลชั้นต้นก็มิได้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ตามที่โจทก์ยื่นคำขอในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2547 และวันที่ 19 มีนาคม 2547 กรณีถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่ศาลชั้นต้นจะงดการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 292 (2) ซึ่งศาลชั้นต้นมีอำนาจกระทำได้ เพราะเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการบังคับคดีตามอำนาจแห่งดุลพินิจของศาลชั้นต้น ทั้งในงวดต่อๆ มา เดือนสิงหาคม 2547 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 เดือนสิงหาคม 2548 เดือนกุมภาพันธ์ 2549 เดือนสิงหาคม 2549 และเดือนกุมภาพันธ์ 2550 จำเลยชำระตรงตามนัดและโจทก์ได้รับชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมระงับสิ้นไป จึงไม่มีเหตุต้องออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย โดยจำเลยตกลงผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน 212,812 บาท แบ่งชำระเป็นรายงวดรวม 7 งวด เริ่มต้นชำระงวดแรกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 จำนวนเงิน 20,000 บาท หากจำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมด ยอมให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินที่ค้างชำระและยอมให้โจทก์บังคับคดียึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดชำระหนี้งวดแรกจำเลยมิได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษา ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2547 จำเลยได้นำเงินดังกล่าวมาวางศาลเพื่อชำระหนี้โจทก์ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2547 โจทก์ยื่นคำขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยนำเงินมาวางชำระหนี้งวดแรกแล้วยกคำขอ
ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2547 โจทก์ยื่นคำขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยอ้างว่าจำเลยผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความไม่นำเงินมาชำระหนี้งวดแรกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยนำเงินมาวางศาลช้าไปเพียง 2 วันทำการ จะฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ถนัด ให้ยกคำขอ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษากลับ ให้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 1 ระบุว่า จำเลยตกลงผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์จำนวน 212,812 บาท โดยแบ่งชำระเป็นรายงวดรวม 7 งวด เริ่มต้นชำระงวดแรกในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 จำนวนเงิน 20,000 บาท ปรากฏว่าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 เป็นวันอาทิตย์ การที่จำเลยนำเงิน 20,000 บาท มาวางชำระหนี้โจทก์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2547 จึงเป็นการนำเงินมาวางศาลช้าไปเพียง 2 วันทำการ นอกจากนี้ยังปรากฏว่างวดที่ 2 คืองวดวันที่ 15 สิงหาคม 2547 จำนวนเงิน 32,135 บาท จำเลยก็ได้นำมาวางชำระแล้วเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2547 ปรากฏตามใบรับเงินเล่มที่ 32678/2547 เลขที่ 08 งวดที่ 3 คืองวดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548 จำนวนเงิน 32,135 บาท จำเลยก็ได้นำมาวางชำระแล้วเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548 ปรากฏตามใบรับเงินเล่มที่ 37732/2548 เลขที่ 31 งวดที่ 4 คืองวดวันที่ 15 สิงหาคม 2548 จำนวนเงิน 32,135 บาท จำเลยก็ได้นำมาวางชำระแล้วเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2548 ปรากฏตามใบรับเงินเล่มที่ 37734/2548 เลขที่ 94 งวดที่ 5 คืองวดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 จำนวนเงิน 32,135 บาท จำเลยก็ได้นำมาวางชำระแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 ปรากฏตามใบรับเงินเล่มที่ 37739/2549 เลขที่ 29 งวดที่ 6 คืองวดวันที่ 15 สิงหาคม 2549 จำนวนเงิน 32,135 บาท จำเลยก็ได้นำมาวางชำระแล้วเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2549 ปรากฏตามใบรับเงินเล่มที่ 42061/2549 เลขที่ 52 งวดที่ 7 อันเป็นงวดสุดท้ายคืองวดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550 จำนวนเงิน 32,135 บาท จำเลยก็ได้นำมาวางชำระแล้วเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2549 ปรากฏตามใบรับเงินเล่มที่ 42064/2550 เลขที่ 05 จึงเห็นได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วและโจทก์ก็ได้รับเงินทั้งหมดไปจากศาลชั้นต้นแล้ว แม้ในงวดแรกจำเลยจะได้ชำระช้าไปเพียง 2 วันทำการ แต่ศาลชั้นต้นก็มิได้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ตามที่โจทก์ขอ กรณีถือได้ว่ามีเหตุอันสมควรที่ศาลชั้นต้นจะงดการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 (2) ซึ่งศาลชั้นต้นมีอำนาจกระทำได้เพราะเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการบังคับคดีตามอำนาจแห่งดุลพินิจของศาลชั้นต้น เมื่อปรากฏต่อมาว่าในงวดอื่นจำเลยชำระตรงตามนัดและอีกหลายงวดที่ชำระก่อนวันนัด โดยโจทก์ได้รับชำระหนี้เป็นเช็คธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาอุทัยธานี เลขที่ 0046159 ไปจากศาลชั้นต้นครบแล้ว หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมระงับสิ้นไป กรณีจึงไม่มีเหตุต้องออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาให้ออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้บังคับไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ