คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์มีว่า ยายโจทก์ได้ให้ศาลจ้าวจืนอาศัยปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินพิพาทบัดนี้ที่ดินตกเป็นของโจทก์ ๆ จึงขอให้ขับไล่
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉะบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ ๑๘ ปีมาแล้ว ยายโจทก์ให้ศาลจ้าวจีน ซึ่งมิได้จดทะเบียนอาศัยปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินโฉนดที่ ๓๔๓ ต่อมาโจทก์กับพวกได้รับมรดกรายนี้จากยาย และจำเลยเป็นกรรมการจัดการศาลจ้าว โจทก์ไม่ประสงค์ให้อาศัยต่อไป จึงขอให้ขับไล่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง
จำเลยต่อสู้ว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่รายพิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชน เป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว โดยได้รับว่าตอบแทนไป ๓๐๐ บาท จำเลยอ้างเอกสาร ๒ ฉะบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าวและโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน ๓๐๐ บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสารโจทก์ไปรับโฉนดมา (ภายหลัง) จำเลยไม่ทราบจริง คู่ความต่างไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เจ้าของที่ดินสละกรรมสิทธิมอบให้จำเลยครอบครองเกิน ๑๐ ปี จึงให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้ว ปรากฎตามฟ้องว่ายายโจทก์ได้ให้ศาลจ้าวจีนอาศัยปลูกศาลจ้าวในที่พิพาท จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้อาศัย ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้แก่ศาลจ้าว และได้รับเงินค่าตอบแทนไป ๓๐๐ บาท และจำเลยมีเอกสาร ๒ ฉะบับมาแสดงต่อศาลอันเป็นข้อแสดงชัดว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย ฉะนั้นข้อนำสืบจึงตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์ที่จะต้องสืบว่าจำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง แม้ที่พิพาทจะมีโฉนดชื่อโจทก์ แต่โจทก์เพิ่งไปของรับโฉนดมาภายหลัง โดยจำเลยไม่ทราบ เพราะเดิมเป็นที่มือเปล่าอยู่ และจำเลยปกครองมา ๑๐ ปีเศษแล้ว การที่โจทก์ได้รับโฉนดมาก็โดยทับที่ จำเลยเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืน

Share