คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษเลยแล้ว แม้ศาลจะไม่เชื่อพยานโจทก์ตอนหนึ่ง และโจทก์ไม่อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยเชื่อคำพยานโจทก์ตอนนั้นได้
ศาลชั้นต้นปรับจำเลยรวมพยานหลักฐานมีฝิ่นผิดพ.ร.บ. เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกา+แก้ไข

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีฝิ่นผิด พ.ร.บ.ฝิ่น ๒๔๗๒ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๔๘๑ มาตรา ๖
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ จำเลยที่ ๒ ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกคนละ ๓ ปี ปรับ ๕ เท่าราคาฝิ่นเป็นเงิน ๑๔,๒๙๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง เหลือปรับรวมกัน ๗,๑๔๕,๐๐๐ บาท จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ริบของกลาง
จำเลยที่ ๑ ฎีกาโดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลฎีกาพิพากษาว่าข้อที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นไม่เชื่อพยานโจทก์ว่า จำเลยได้พูดกับพยานเรื่องฝิ่นโจทก์ไม่อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ความข้อนี้ ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยไม่ได้นั้น เห็นว่าคดีนี้ศาลลงโทษจำเลยตามฟ้องแล้ว โจทก์ไม่มีประเด็นที่จะอุทธรณ์ เรื่องเช่นนี้ศาลสูงย่อมมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
ส่วนที่ศาลชั้นต้นปรับจำเลยรวมกันและลดให้จำเลยนั้น จะผิดถูกอย่างไรไม่มีประเด็นมาถึงศาลฎีกา
พิพากษายืน

Share