แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไปจนกว่าจะจับตัวจำเลยได้ และในท้ายคำร้อง ทนายโจทก์ได้เซ็นที่หมายเหตุว่า”ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว” ศาลได้มีคำสั่งในวันรุ่งขึ้นว่าให้เลื่อนคดีไปโดยโจทก์ยังไม่ทราบคำสั่งศาล ดังนี้ ศาลจะพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166,181 หาชอบไม่
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
ศาลแขวงพระนครใต้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งประทับฟ้องและหมายเรียกจำเลยแต่ส่งหมายให้จำเลยไม่ได้ โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายให้จำเลยไม่ได้ โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายจับจำเลย ต่อมาในวันที่ 29 ตุลาคม 2502 โจทก์ยื่นคำร้องว่า ตามที่ศาลนัดให้จำเลยยื่นคำให้การและสืบพยานโจทก์ในวันที่ 30 ตุลาคม นั้น ยังจับตัวจำเลยไม่ได้ขอเลื่อนการพิจารณาจนกว่าจะจับตัวจำเลยได้ ศาลสั่งคำร้องของโจทก์ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 30 ตุลาคม ว่า “เลื่อนไปวันที่ 30 เดือนหน้าเวลา 8.30 น. ลงนัดไว้ ให้โจทก์มาศาลในวันเวลานัดด้วย ถ้าถึงกำหนดนัดแล้วยังไม่ได้ตัวจำเลยมาจะได้พิจารณาสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวต่อไป
ครั้นถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันนัด โจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลมีคำสั่งในวันนั้นว่า “ปรากฏว่าที่คำร้องของโจทก์ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2502 ศาลได้สั่งนัดวันนี้เวลา 8.30 น. และโจทก์ได้มาศาล ท้ายคำร้องนั้น ทนายโจทก์ได้เซ็นที่หมายเหตุว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว” ดังนี้ เมื่อโจทก์และทนายไม่มาศาลตามกำหนดนัด ให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166, 181
วันที่ 29 ธันวาคม 2502 เจ้าพนักงานตำรวจจับตัวจำเลยมาศาลตามหมายจับ ศาลได้สั่งปล่อยตัวจำเลยโดยอ้างว่าศาลได้ยกฟ้องแล้วในวันเดียวกันนั้น โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่ได้มาศาลตามกำหนดนัดหาใช่จงใจขาดนัด เพราะโจทก์ไม่ทราบคำสั่งศาล จึงมิได้มาศาลจึงขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ยื่นคำร้องเกินกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลยกฟ้องแล้ว ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำรับรองในหมายเหตุท้ายคำร้องของโจทก์ว่าถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้วนั้น ย่อมหมายความเพียงว่าผู้ยื่นรอฟังคำสั่งอยู่ในวันยื่นจนกว่าจะหมดเวลาทำการในวันนั้นเท่านั้นจะถือเลยว่าผู้ยื่นจะต้องมารอฟังคำสั่งในวันต่อมาอีกด้วยไม่ได้เมื่อศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนคดีไปแล้ว ก็หาแจ้งให้โจทก์ทราบไม่ครั้นถึงวันนัดไม่มีโจทก์มาศาล ศาลจะถือเอาคำร้องรับรองในหมายเหตุท้ายคำร้องของโจทก์ว่าโจทก์ทราบคำสั่งให้เลื่อนคดีนั้น และถือว่าโจทก์ขาดนัดให้ยกฟ้องเสีย เป็นการไม่ชอบ และเมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้องแล้ว หาจัดการอ่านคำสั่งให้โจทก์ทราบไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน