แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
เจ้าหนี้ไม่มีประกันที่จะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ต่อเมื่อมูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม แต่ต้องยื่นคำขอต่อผู้คัดค้านภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ดังที่บัญญัติไว้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 27 มาตรา 91 และมาตรา 94 หนี้ค่าปรับที่ผู้ร้องนำมาขอรับชำระหนี้ศาลมีคำสั่งปรับลูกหนี้ที่ 3 นายประกันตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2548 และวันที่ 14 มีนาคม 2549 ภายหลังจาก พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547 ซึ่งใช้บังคับเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547 เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 วรรคสอง กำหนดให้ถือว่าหัวหน้าสำนักงานประจำศาลยุติธรรมเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้ตามสัญญาประกันนานพอสมควรแล้ว ผู้ร้องซึ่งรับโอนอำนาจการบังคับคดีแก่นายประกันย่อมสามารถดำเนินการวางระบบงานเพื่อตรวจสอบว่านายประกันสำนวนคดีใดบ้างผิดสัญญาประกันและเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อดำเนินการบังคับคดีตามอำนาจหน้าที่ของตน และเพื่อทราบว่าลูกหนี้ใดศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่ จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ
การที่ผู้ร้องอ้างว่าศาลแขวงนครราชสีมามีบุคลากรผู้รับผิดชอบในการบังคับคดีแก่นายประกันไม่เพียงพอกับปริมาณงาน และเพื่อมิให้หน่วยงานของรัฐต้องสูญเสียรายได้ที่ควรจะได้รับ กรณียังไม่มีเหตุสุดวิสัยหรือกฎหมายให้อำนาจที่จะขยายระยะเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ออกไปได้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 3 ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสามเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับลงวันที่ 12 ตุลาคม 2549 และในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 ครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 22 มกราคม 2550 เนื่องจากวันที่ 21 มกราคม 2550 ตรงกับวันหยุดราชการ ต่อมาวันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันในคดีอาญาเป็นเงิน 120,000 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 3 ในฐานะเจ้าหนี้ไม่มีประกัน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พิจารณาแล้ว เห็นว่าผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว มีคำสั่งไม่รับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้องไว้ดำเนินการต่อไป
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2540 ลูกหนี้ที่ 3 ทำสัญญาประกันตัวจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่3202/2541 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2431/2541 ของศาลแขวงนครราชสีมา ต่อมาลูกหนี้ที่ 3 ผิดสัญญาประกัน ศาลมีคำสั่งปรับเต็มตามสัญญาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2548 และวันที่ 14 มีนาคม 2549 ตามลำดับ เป็นเงินคดีละ 60,000 บาท รวมสองคดี 120,000 บาท ตามคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว สัญญาประกัน รายงานกระบวนพิจารณาและหมายบังคับคดี ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน 2549 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ที่ 3 เด็ดขาด ผู้คัดค้านโฆษณาคำสั่งดังกล่าวในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับลงวันที่ 12 ตุลาคม 2549 และในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 ครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 22 มกราคม 2550 เนื่องจากวันที่ 21 มกราคม 2550 ตรงกับวันหยุดราชการหลังจากนั้นวันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 ผู้ร้องนำหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันดังกล่าวไปยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อผู้คัดค้าน แต่ผู้คัดค้านมีคำสั่งไม่รับคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้อง
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องมีว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 3 ได้หรือไม่ เห็นว่า เจ้าหนี้ไม่มีประกันที่จะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ต่อเมื่อมูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม แต่ต้องยื่นคำขอต่อผู้คัดค้านภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ดังที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 27 มาตรา 91 และมาตรา 94 หนี้ค่าปรับที่ผู้ร้องนำมาขอรับชำระหนี้ศาลมีคำสั่งปรับลูกหนี้ที่ 3 นายประกันตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2548 และวันที่ 14 มีนาคม 2549 ภายหลังจากพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547 ซึ่งใช้บังคับเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2547 เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 วรรคสอง กำหนดให้ถือว่าหัวหน้าสำนักงานประจำศาลยุติธรรมเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้ตามสัญญาประกันนานพอสมควรแล้ว ผู้ร้องซึ่งรับโอนอำนาจการบังคับคดีแก่นายประกันย่อมสามารถดำเนินการวางระบบงานเพื่อตรวจสอบว่านายประกันสำนวนคดีใดบ้างผิดสัญญาประกันและเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อดำเนินการบังคับคดีตามอำนาจหน้าที่ของตน และเพื่อทราบว่าลูกหนี้ใดศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่ จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะข้างต้น ประกอบกับเมื่อพิจารณาว่าลูกหนี้ที่ 3 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2549 ซึ่งครบกำหนดระยะเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 22 มกราคม 2550 แต่ผู้ร้องเพิ่งนำหนี้ค่าปรับดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 เกินกำหนดเวลาเกือบ 3 ปี ที่ผู้ร้องอ้างว่าศาลแขวงนครราชสีมามีบุคลากรผู้รับผิดชอบในการบังคับคดีแก่นายประกันไม่เพียงพอกับปริมาณงาน และเพื่อมิให้หน่วยงานของรัฐต้องสูญเสียรายได้ที่ควรจะได้รับ กรณียังไม่มีเหตุสุดวิสัยหรือกฎหมายให้อำนาจที่จะขยายระยะเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ออกไปได้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำขอรับชำระหนี้ค่าปรับตามสัญญาประกันจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ 3 ได้ ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องนั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ