แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
สำเนาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงฟังประกอบพยานบุคคลรับฟังในคดีละเมิดได้ว่า จำเลยจ่ายน้ำมันไม่ตรงความจริงน้ำมันเชื้อเพลิงขาดจำนวนไป ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94 จำเลยฝ่าฝืนระเบียบที่วางไว้ไม่ทำหลักฐานการที่ผู้ขับยานพาหนะรับน้ำมันไป และยอมให้คนอื่นทำเอกสารแสดงการใช้น้ำมันแทนผู้ขับไม่ตรวจสอบแสดงยอดการใช้น้ำมันให้ตรงกัน น้ำมันที่ขาดหายเป็นผล โดยตรงจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลย ต้องรับผิด
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาน้ำมัน 130,689 บาทแก่โจทก์ กับดอกเบี้ย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ได้ความเบื้องต้นว่า จำเลยรับราชการในกรมทางหลวง เป็นหัวหน้าหน่วยงานพัสดุทางหลวงร้อยเอ็ด แขวงการทางยโสธรทำหน้าที่คุมงานสร้างบำรุงทาง ต้องรับผิดชอบวัสดุอุปกรณ์ รวมทั้งการเบิกน้ำมันเชื้อเพลิงจากแขวงการทางยโสธรไปใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน เกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงจำเลยรับจากแขวงการทางยโสธรไปตามที่ขอเบิก ฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันขององค์การเชื้อเพลิงจังหวัดร้อยเอ็ดและจำเลยผู้เดียวที่มีอำนาจสั่งจ่าย กรมทางหลวงวางระเบียบไว้เพื่อควบคุมการใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจำเลยจะต้องออกคำสั่งให้เครื่องจักรหรือยานพาหนะปฏิบัติงานเป็นคราว ๆ ระบุน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะใช้ตามแบบ ท.32 ผู้ขับยานพาหนะหรือใช้เครื่องจักรรับคำสั่งไปแล้วต้องทำรายงานตามแบบ ช.ก.5 ด้วยตนเอง แสดงการปฏิบัติงานและใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นรายวันลงชื่อยื่นต่อจำเลย แนบคำสั่งแบบ ท.32 มาด้วย จากนั้นเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของจำเลยที่จะต้องรวบรวมทำรายงานสรุปผลการใช้ยานพาหนะหรือเครื่องจักรประจำวัน ตามแบบ ช.ก.5 ก. เป็นรายคันที่ใช้รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงกับแยกจำนวนน้ำมันเชื้อเพลิงจาก ช.ก.5 ก. มาลงบัญชี แบบ ท.3 ส่งแขวงการทางยโสธรเป็นรายเดือน
โจทก์นำสืบพยานหลักฐานที่แสดงว่า น้ำมันเชื้อเพลิงในความรับผิดชอบของจำเลยขาดหาย คือ บัญชีแยกน้ำมันเชื้อเพลิง แบบ ท.3 ที่จำเลยลงรายการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อตรวจสอบเทียบกับ ช.ก.5, ช.ก.5 ก. และหลักฐานการจ่ายโอนของจำเลยแล้ว แสดงยอดน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือไม่ถูกต้อง ทำให้น้ำมันเบนซินขาดหาย 3140 ลิตร น้ำมันดีซ่าขาดหาย 2845 ลิตร สำเนาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของจำเลย 149 ฉบับ สั่งจ่ายน้ำมันน้อยกว่าจำนวนที่นำมาลงไว้ใน ช.ก. 5 และ ช.ก. 5 ที่แสดงยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะบางคันมีจำนวนสูงเกินกว่าที่ผู้ขับยานพาหนะคันนั้น ๆ ได้รับไปปฏิบัติงาน ช.ก.5 ที่แสดงรายการใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ถูกต้องตรงความจริงดังกล่าว เป็นเหตุให้จำนวนน้ำมันเชื้อเพลิงขาดไปอีกจำนวนหนึ่งเป็นน้ำมันเบนซิน 30070 ลิตร และน้ำมันดีซ่า 58100 ลิตร
จำเลยฎีกาว่า หลักฐานที่โจทก์แสดงถึงน้ำมันเชื้อเพลิงขาดหาย 3140 ลิตร น้ำมันดีซ่าขาดหาย 2845 ลิตร เป็นการตรวจสอบจากเอกสารบัญชี แบบ ท.3 กับ ช.ก.5 ก. และหลักฐานการจ่ายโอนทุกเดือนเทียบกันไป ซึ่งการทำบัญชีจำเลยอาจลงตัวเลขผิดพลาด แต่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ว่า โจทก์ตรวจสอบผิด ฎีกาของจำเลยเกี่ยวกับน้ำมันจำนวนนี้ขาดหาย จึงเป็นเรื่องที่มิได้ว่ากล่าวกันไว้ในศาลชั้นต้น ไม่เป็นประเด็นในชั้นฎีกา
น้ำมันเชื้อเพลิงที่จ่ายไม่ตรงกับจำนวนที่ลงใน ช.ก. 5 รวมทั้งสิ้นเป็นน้ำมันเบนซิน 30070 ลิตร และน้ำมันดีซ่า 58100 ลิตร จำเลยฎีกาว่า โจทก์นำสืบโดยใช้พยานบุคคลซึ่งเป็นผู้ขับยานพาหนะมาเบิกความหักล้างเอกสารทางราชการแบบ ช.ก. 5, ช.ก. 5 ก. ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 และใช้สำเนาใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอันมิใช่เอกสารทางราชการมาแสดง ซึ่งไม่ตรงกับต้นฉบับ เพราะจำเลยแก้จำนวนสั่งจ่ายในต้นฉบับ แต่มิได้แก้สำเนาด้วยนั้น เห็นว่า ข้อพิพาทซึ่งโจทก์จะต้องนำสืบว่าจำเลยทำละเมิดเป็นเหตุให้น้ำมันเชื้อเพลิงของโจทก์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยขาดหายไป มิได้มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารอย่างใดมาแสดง ถ้อยคำของพยานบุคคลที่รู้เห็นในเรื่องนี้ย่อมไม่ต้องห้ามมิให้รับฟัง และไม่มีข้อโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า พยานบุคคลของโจทก์รับฟังเป็นความจริงไม่ได้ ส่วนใบสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่จำเลยทำขึ้นเป็นสำเนา และมอบต้นฉบับให้ผู้ขับยานพาหนะไปรับน้ำมันเชื้อเพลิงจากปั๊มที่เก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิงตามจำนวนในใบสั่งจ่ายเป็นพยานหลักฐานอย่างหนึ่ง ประกอบถ้อยคำของพยานบุคคลที่รู้เห็นว่า จำเลยให้ผู้อื่นทำ ช.ก. 5 แทนผู้ขับยานพาหนะลงรายการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าใบสั่งจ่าย เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ระบุว่าจ่ายไปตามสำเนาใบสั่งจ่ายไม่ตรงจำนวนที่นำมาลงใน ช.ก.5 โดยไม่มีข้อโต้แย้งและไม่มีหลักฐานว่า ต้นฉบับใบสั่งจ่ายมีการแก้ยอดจำนวนน้ำมันเชื้อเพลิงผิดไปจากสำเนาพยานบุคคลของโจทก์ และเอกสารใบสั่งจ่ายที่จำเลยทำไว้รับฟังได้ว่า จำเลยจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ตรงตามความจริง น้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนนี้ขาดหายไป
จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ขาดหายไปนั้น เห็นว่า จำเลยมีตำแหน่งหน้าที่ราชการเป็นหัวหน้าหน่วยงานที่จะต้องควบคุมรับผิดชอบในการเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ทำการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติหน้าที่ราชการที่วางไว้เพื่อควบคุมการเบิกจ่ายเสียเอง โดยไม่ทำหลักฐานการรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่จ่ายแก่ผู้ขับยานพาหนะไว้ ตามระเบียบแล้วเข้ามีส่วนรู้เห็นให้ผู้อื่นทำ ช.ก.5 แสดงยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของยานพาหนะแต่ละคันตัวแทนผู้ขับ ซึ่งฝ่าฝืนระเบียบเสมอมา ละเลยไม่ตรวจสอบยอดแสดงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงใน ช.ก.5 ให้มีจำนวนตรงกันกับที่จำเลยสั่งจ่ายให้ผู้ขับยานพาหนะรับไปปฏิบัติงาน แม้รายงานแบบ ช.ก.5 ก. ที่จำเลยจะต้องรับผิดชอบจัดทำเองเป็นหลักฐานทุก ๆ เดือน จำเลยก็ไม่ตรวจสอบรายการที่แสดงยอดน้ำมันคงเหลือให้ถูกต้องตรงตามความจริง น้ำมันเชื้อเพลิงที่ขาดหายไป เป็นผลโดยตรงจากการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลยจำเลยจำต้องรับผิดชดใช้แก่โจทก์”
พิพากษายืน