แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องได้ร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินโฉนดมีชื่อนายวันเป็นเจ้าของ เป็นกรรมสิทธิของผู้ร้องโดยผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินรายนี้มาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปีแล้ว ผู้คัดค้านอ้างว่า นายวันเป็นบิดาผู้คัดค้าน เมื่อ 10 ปีเศษนายวันได้นำโฉนดที่ดินรายนี้ไปวางประกันเงินกู้นายท้วม นายท้วมตายโฉนดจึงตกอยู่แก่ผู้ร้อง ดังนี้ เป็นหน้าที่ของผู้คัดค้านจะต้องนำสืบก่อน ในเมื่อผู้คัดค้านรับว่าผู้ร้องได้ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว.
ย่อยาว
นายฉิมได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า เมื่อ ๑๘ ปีมานี้ นายวันเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ ๔๕๙๘ ได้ขายที่รายนี้ให้แก่ผู้ร้อง แล้วมอบโฉนดให้ผู้ร้องครอบครองสืบมาจนทุกวันนี้ นายวันได้ตายมา ๑๔-๑๕ ปี ไม่มีทายาทจะมาแก้ทะเบียน ผู้ร้องได้ครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตราเป็นเจ้าของกว่า ๑๐ ปีแล้ว ขอให้ศาลแสดงว่า ที่รายนี้เป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ร้อง และให้ถอนชื่อนายวันออก และใส่ชื่อผู้ร้อง ผู้คัดค้านคัดค้านว่า นายวันเป็นบิดาผู้คัดค้าน เมื่อประมาณ ๑๐ ปีเศษ นายวันได้นำโฉนดรายนี้ไปประกันเงินกู้ไว้กับนายท้วมให้ที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย นายท้วมตาย โฉนดจึงตกอยู่กับผู้ร้อง ผู้คัดค้านไปขอชำระหนี้แต่ผู้ร้องไม่ยอม ผู้ร้องและผู้คัดค้าน ไม่สืบพะยานทั้ง ๒ ฝ่าย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิตามกฎหมาย ให้ถอนชื่อนายวันออก และใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิต่อไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้ร้องจะต้องนำสืบก่อน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ แม้โฉนดที่พิพาทจะมีชื่อบิดาผู้คัดค้านเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ ก็ดี ย่อมตกเป็นหน้าที่ของผู้คัดค้านต้องนำสืบก่อน เพราะผู้คัดค้านรับว่าผู้ร้องได้ครอบครองมากว่า ๑๐ ปีแล้ว
พิพากษายืน.