คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยมีที่ดินอยู่ติดคลองด้วยกันทั้งสองฝ่ายซึ่งต่างก็สามารถจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้โดยสดวกแต่โจทก์ใช้คูซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็นที่เก็บเรือของโจทก์ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ใช้คูของจำเลยเป็นที่สำหรับเก็บเรือ มิใช่เป็นทางสัญจรไปไหนแม้จะมีการเอาเรือเข้าออกคู ก็หาใช่เป็นการไปมาไม่ เพราะเป็นเรื่องเอาเรือเข้าเก็บ และเอาออกใช้ จึงไม่ต้องด้วยลักษณะภารจำยอมตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1387 เจ้าของคูย่อมปิดกั้นคูนั้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อห้องแถวที่ปิดปากคู อย่าให้ขัดขวางเรือโจทก์ที่จะสัญจรเข้าไปเก็บและเรียกค่าเสียหายอีก 2,100 บาท

จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่า โจทก์อาศัยและใช้คูยังไม่ถึง 10 ปี

จำเลยที่ 2 ว่า เช่าห้องจากจำเลยที่ 1

ศาลแพ่งงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีเรื่องนี้แล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่ดินของโจทก์และจำเลยอยู่ติดคลองบางขุนเทียนด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต่างก็สามารถจะใช้เป็นทางสัญจรไปมาได้โดยสะดวกแต่โจทก์ใช้คู ซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยที่ 1 เป็นที่เก็บเรือ 4 ลำของโจทก์

ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นเรื่องโจทก์ใช้คูของจำเลยเป็นที่สำหรับเก็บเรือ มิใช่เป็นทางสัญจรไปไหน จึงไม่ต้องด้วยลักษณะภารจำยอมตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1387 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

จึงพิพากษายืน

Share