แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาไว้ ผู้ร้องเป็นโจทก์ร่วมคนหนึ่งในคดีนี้ บัดนี้ผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 ตกลงกันได้แล้ว โดยจำเลยที่ 1 ยอมชำระเงินให้แก่ ผู้ร้อง ผู้ร้องจึงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยที่ 1อีกต่อไป และขอถอนคำร้องทุกข์เฉพาะจำเลยที่ 1 โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 281)
คดีของศาลชั้นต้นหมายเลขแดงที่ 2285/2534 นี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับอีกคดีหนึ่ง โดยเรียกจำเลยทั้งสองใน คดีนี้ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ตามเดิม เรียกจำเลยในอีก คดีหนึ่งว่า จำเลยที่ 3
ระหว่างพิจารณา นายทวี ยมวรรณ กับพวกรวม 6 คนผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,83,91 ฯลฯ ลงโทษจำเลยที่ 1จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 จำคุกคนละ 4 เดือน จำเลยทั้งสามกระทำความผิด 7 กรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษ รวมแล้วลงโทษจำเลยทั้งสามจำคุกคนละ 28 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,83,91 ที่แก้ไขแล้วเพียง6 กรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษคงจำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3ไว้คนละ 24 เดือน ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนหรือใช้เงิน ฯลฯนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ (อันดับ 261)
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง (อันดับ 263)
ผู้ร้องยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 281)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวมีโจทก์ร่วมทั้งหกและนายจำเนียรพงษ์สวัสดิ์ เป็นผู้เสียหายคดียังไม่ถึงที่สุด ผู้เสียหายจะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อโจทก์ร่วมทั้งหกขอถอนคำร้องทุกข์สำหรับจำเลยที่ 1แต่นายจำเนียรพงษ์สวัสดิ์ มิได้ขอถอนคำร้องทุกข์ด้วยสิทธินำคดีอาญามาฟ้องเฉพาะของโจทก์ร่วมทั้งหกที่มีต่อจำเลยที่ 1 ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) จึงให้จำหน่ายคดีจำเลยที่ 1 เฉพาะความผิดที่โจทก์ร่วมทั้งหกเป็นผู้เสียหาย