คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2888/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยมอบหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและใบแต่งทนายความให้ต.คนขับรถบรรทุกข้าวสารของจำเลยนำไปให้ทนายความที่กรุงเทพฯ ก่อนครบกำหนดยื่นคำให้การ 2 วัน ปกติรถบรรทุกข้าวสารของจำเลยจะต้องถึงกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น แต่รถเสียกลางทางต้องซ่อมหลายวันจนพ้นกำหนดยื่นคำให้การ ทนายความจึงยื่นคำให้การเมื่อพ้นกำหนดเวลา นับว่าเป็นความบกพร่องและความผิดของจำเลยเอง พฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยเป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การและการยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การโดยอ้างเหตุดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอยื่นคำให้การโดยไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องเสียก่อนได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นยกคำร้องที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขออนุญาตยื่นคำให้การโดยไม่ไต่สวน พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินจำนวน1,333,964.80 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ทำการไต่สวนคำร้องขอยื่นคำให้การและอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้นชอบแล้วพิพากษายืน จำเลยที่ 1 ที่ 2ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาข้อแรกของจำเลยที่ว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอยื่นคำให้การโดยมิได้ไต่สวนเป็นการชอบหรือไม่ว่า”เห็นว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาว่า ที่ยื่นคำให้การพ้นกำหนดนั้นมีเหตุอันสมควรเพราะจำเลยที่ 1 ที่ 2 มอบหมายเรียก สำเนาคำฟ้องและใบแต่งทนายความให้นายตี พัดสารัมย์ คนขับรถบรรทุกข้าวสารของจำเลยที่ 1 นำไปให้ทนายความตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2527 ก่อนครบกำหนดยื่นคำให้การถึง 2 วัน ปกติรถบรรทุกข้าวสารของจำเลยที่ 1 จะต้องถึงกรุงเทพฯ ในตอนเช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2527 แต่รถไปเสียกลางทางต้องซ่อมจนถึงเย็นวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2527นายตีไม่ทราบว่าเป็นเอกสารสำคัญและไม่กล้าทิ้งรถซึ่งบรรทุกข้าวสารเต็มคันไป จึงเพิ่งมอบหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและใบแต่งทนายให้แก่ทนายความในวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2527 และทนายความนำคำให้การมายื่นในวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2527 การที่ศาลไม่ไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เสียก่อน กลับสั่งยกคำร้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 เช่นนี้ จึงเป็นการไม่ชอบนั้นเมื่อพิจารณาจากคำร้องขอยื่นคำให้การของจำเลยที่ 1 ที่ 2 แล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นความบกพร่องของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เองที่ฝากเอกสารสำคัญในการต่อสู้คดีมากับคนขับรถบรรทุกข้าวสารโดยไม่แจ้งให้ทราบว่าเป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างไร ต้องส่งให้ถึงมือทนายความในวันเวลาใดทั้งจำเลยที่ 1 ที่ 2 ก็เพิกเฉยปล่อยให้เวลาผ่านไปจนเหลืออีกเพียง 2 วันเพิ่งฝากหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและใบแต่งทนายความให้คนขับรถนำจากบุรีรัมย์เข้ามากรุงเทพมหานคร ทั้ง ๆ ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อยู่ก่อนแล้วโดยวิธีการอื่นที่ดีกว่านี้เหตุล่าช้าเหล่านี้นับว่าเป็นความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เองที่ไม่นำพาต่อสิทธิของตน และยังอ้างว่ามาดูคำสั่งศาลแล้วสั่งไม่รับคำให้การเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2527 ซึ่งความจริงศาลเพิ่งสั่งไม่รับคำให้การเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2527 พฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตตามคำขอของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ดังนั้นแม้จะสั่งไต่สวนไปอย่างมากก็คงฟังได้ตามคำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 เองดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสั่งไต่สวนศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งยกคำร้องขอยื่นคำให้การนี้เสียได้โดยไม่จำต้องไต่สวนคำร้องเสียก่อนดังจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา”
พิพากษายืน

Share