คำสั่งคำร้องที่ 786/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปีศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกว่าหนึ่งปี ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงเว้นแต่ฎีกาในข้อ 4.2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายจึงให้รับฎีกาของจำเลยเฉพาะข้อ 4.2
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดต่อกฎหมายโดยจำเลยได้บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับคำเบิกความของพยานบุคคลในสำนวนความว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดไปอย่างไรบ้างโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยข้ออื่น ๆ เพิ่มจากข้อ 4.2ที่ศาลชั้นต้นได้สั่งรับไว้แล้วไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 94)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264,265,268,337,90 และ 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 และ 268 เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสารราชการนั้นเองจึงลงโทษตามมาตรา 268 แต่กระทงเดียวตามมาตรา 268 วรรค 2จำคุก 1 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกจำเลย 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 87)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 91)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดต่อกฎหมาย เพราะไม่ฟังข้อเท็จจริงตามคำพยานที่จำเลยยกขึ้นกล่าวในฎีกานั้นเห็นว่าเป็นการฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาข้ออื่น ๆ ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share