แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งเจ็ดฎีกา ศาลฎีกาอาจพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ได้ โปรดมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 275)
คดีทั้งเจ็ดสำนวนนี้ จำเลยเป็นบุคคลรายเดียวกัน โจทก์แต่ละสำนวนต่างฟ้องจำเลยเป็นทำนองเดียวกันขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาแสดงว่าที่ดินภายในกรอบสีแดงในแผนที่ท้ายฟ้องแต่ละสำนวนเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง และให้จำเลยถอนคำขอที่ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออก น.ส.3 ก. มิฉะนั้นให้ถือเอาคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยจำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งทั้งเจ็ดสำนวน
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาคดีทั้งเจ็ดสำนวนเข้าด้วยกัน โดยเรียกโจทก์ในแต่ละสำนวนเป็นโจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 7 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งเจ็ดสำนวน ห้ามโจทก์ทั้งเจ็ดสำนวนและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินที่จำเลยมีสิทธิครอบครองให้โจทก์ทั้งเจ็ดสำนวนถอนคำคัดค้านคำขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เสีย หากโจทก์ไม่ไปถอนให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งเจ็ดฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 270,271)
โจทก์ทั้งเจ็ดได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์(อันดับ 249)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกาเฉพาะในส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ทั้งเจ็ดสำนวน ถอนคำคัดค้านคำขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)
