คำสั่งคำร้องที่ 626/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่ง ไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำค่าฤชาธรรมเนียม ทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกัน ให้ไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 จำเลยที่ 2 ขอขยายระยะเวลาวางเงินหรือขยายระยะเวลาวางเงินหรือหาประกันอีกเป็นครั้งที่ 3แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและเมื่อครบกำหนดขยายระยะเวลาวางเงิน ครั้งที่ 2 จำเลยที่ 2 มิได้วางเงินหรือหาประกันให้ไว้ ต่อศาลชั้นต้น กรณีถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ติดใจที่จะยื่นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งฉบับดังกล่าวอีกต่อไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกัน หรือแทนกันชำระเงินจำนวน 85,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะ ชำระเสร็จแก่โจทก์

โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 130,000 บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาฉบับนี้เป็นฎีกาโต้แย้งการใช้ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลย ใช้ค่าเสียหายจำนวน 130,000 บาท ทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นฎีกาจึงไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่รับ ฎีกาของจำเลยที่ 2

จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาว่า จำเลยที่ 2 ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่ว่าการกระทำของโจทก์ที่ปล่อยให้จำเลยที่ 1 นำรถบดดินที่มีน้ำหนักมากบดอัดดินตามที่โจทก์ควบคุมดูแล โดยมิได้ทักท้วง ถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อ ซึ่งเป็น ปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระควรได้รับคำวินิจฉัยจากศาลฎีกา และมิได้เป็นฎีกาโต้แย้งการใช้ดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ตามที่ ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ขอศาลฎีกาโปรดมีคำสั่งรับฎีกาและคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาต่อไป

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษามาวางหรือหาประกันต่อศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2541 จำเลยที่ 2 ขอขยายระยะเวลาวางเงิน 2 ครั้ง ศาลชั้นต้นอนุญาต ต่อมาวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2541 จำเลยที่ 2 ขอขยายระยะเวลาวางเงินเป็นครั้งที่สาม ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต และให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกา

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีเป็นเรื่อง ที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2541 ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 จำเลยที่ 2 ขอขยายระยะเวลาวางเงินหรือหาประกัน 2 ครั้ง ศาลชั้นต้นอนุญาตครบกำหนดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2542 จำเลยยื่นคำร้องขยายระยะเวลาวางเงิน หรือหาประกันอีกเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2542 แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและเมื่อครบกำหนดขยายระยะเวลาวางเงิน ครั้งที่ 2 จำเลยที่ 2 มิได้วางเงินหรือหาประกันให้ไว้ต่อ ศาลชั้นต้น กรณีถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ติดใจที่จะยื่นคำร้อง อุทธรณ์คำสั่งฉบับดังกล่าวอีกต่อไป ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ”

Share