แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อความในฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยเห็นว่าพยานโจทก์ไม่พอฟังที่จะลงโทษจำเลยได้ และปัญหาที่ว่า จำเลยเป็น คนร้ายร่วมชิงทรัพย์รายนี้ด้วยหรือไม่ คดีนี้โจทก์มีประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุ 6 ปาก ว่าจำจำเลยเป็นคนร้ายได้จำเลยเห็นว่ายังขัดต่อข้อเท็จจริงและเหตุผลอยู่นั้นพอถือได้ว่าฎีกาของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 225 แล้วการที่จำเลยต้องขังและไม่มี ทนายความถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยไม่อาจยื่นคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งสั่งไม่รับฎีกาได้ภายในกำหนด ศาลฎีกาจึงขยายกำหนดเวลาให้จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
