แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ก่อน โดยจำเลยยินดีที่จะวางหลักประกันหากศาลเห็นสมควร
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 84)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกไปจากอาคารเลขที่ 306 ถนนเยาวราช แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 24,000 บาท และค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 40,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะขนย้ายออกไปและส่งมอบห้องที่เช่าคืนแก่โจทก์ ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะเกี่ยวกับค่าเสียหายให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 40,000 บาท นับแต่วันที่1 กุมภาพันธ์ 2528 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะขนย้ายออกไปและส่งมอบอาคารที่เช่าคืนแก่โจทก์ค่าเสียหายอื่นให้ยก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 82,81)
จำเลยได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีในระหว่างอุทธรณ์โดยจำเลยนำโฉนดที่ดิน 1 ฉบับ และสมุดฝากเงินในธนาคาร 1 ฉบับของนางสาวนารี พฤติพงศ์ชูช่วย วางเป็นหลักประกันและนางสาวนารี พฤติพงศ์ชูช่วย ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 48,57)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในเรื่องขับไล่ไว้ในระหว่างฎีกา ส่วนค่าเสียหายนั้น ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นเวลาสามปีหกเดือน มาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้องในส่วนเรื่องค่าเสียหาย